สหรัฐฯ แนะไต้หวันเสริมกำลังทหาร รับมือภัยคุกคามจากแดนมังกร ด้านทางการจีนมองความเห็นดังกล่าวถือเป็นการแทรกแซง

ผู้บัญชาการทหารบกสหรัฐอเมริกาแนะไต้หวันเร่งเสริมการป้องกันทางทหาร ทั้งเสริมอาวุธยุทโธปกรณ์และฝึกฝนกำลังพลให้ใช้อาวุธอย่างถูกวิธี พร้อมป้องกันภัยคุกคามจากจีนที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า พลเรือเอกไมเคิล กิลเดย์ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการทางเรือ ประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวในงานที่จัดขึ้นโดยสภาวิเทศสัมพันธ์ (CFR) ของสหรัฐฯ เมื่อวันอังคารที่ 17 พฤษภาคม ว่าไต้หวันต้องป้องกันตัวเองจากการรุกรานของจีนที่อาจเกิดขึ้น ด้วยการเตรียมความพร้อมทั้งในด้านอาวุธยุทโธปกรณ์และฝึกฝนให้บุคลากรสามารถใช้อาวุธได้อย่างถูกต้อง

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับยูเครนเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ที่ต้องเรียนรู้และเป็นการปลุกให้ตื่นตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันไม่ได้เกี่ยวกับอาวุธยุทโธปกรณ์อย่างเดียว แต่เกี่ยวกับการฝึกฝนให้ใช้อาวุธอย่างถูกวิธีด้วย เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อไต้หวันเรื่องเหล่านี้ต้องไม่ถูกมองข้ามไป” พลเรือเอกกิลเดย์กล่าว

งานดังกล่าวจัดขึ้นโดยสภาวิเทศสัมพันธ์ (CFR) ของสหรัฐฯ ซึ่งว่าด้วยเรื่องการถอดบทเรียนจากเหตุการณ์รัสเซียยกพลบุกยูเครน โดยพลเรือเอกกิลเดย์กล่าวในฐานะตัวแทนของผู้บัญชาการทั้ง 6 เหล่าทัพของสหรัฐฯ ซึ่งประกอบด้วย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ กองทัพอวกาศ นาวิกโยธินและหน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ

บรรดาผู้บัญชาการทหารเห็นพ้องกันว่าแม้จะยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าผลกระทบระยะยาวอันเกิดจากภาวะสงครามในยูเครนจะเป็นอย่างไร และมีความแตกต่างที่สำคัญอย่างไร ระหว่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในยุโรปกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเอเชีย แต่ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนเป็นบทเรียนทั้งนั้น

“ในเชิงภูมิศาสตร์ ความขัดแย้งในเอเชียนั้นแตกต่างจากยูเครน อย่างน้อยๆ คุณก็จะไม่ตรงดิ่งเข้าสู่สมรภูมิทันทีที่เริ่มมีการสาดกระสุนกัน” พลเรือเอกกิลเดย์กล่าว

ด้านพลเอกชาร์ลี บราวน์ จูเนียร์ เสนาธิการทหารอากาศสหรัฐฯ กล่าวเสริมว่า อีกหนึ่งบทเรียนสำคัญจากยูเครนคือเจตจำนงของชาติเล็กที่ต้องการจะต่อสู้นั้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ไม่อาจละเลยได้ รวมถึงปฏิกิริยาของประชาคมโลก

ทั้งนี้ ความเห็นของทั้งคู่มีขึ้นเพียงไม่กี่วันก่อนที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ จะเดินทางเยือนญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการริเริ่มโครงการทางเศรษฐกิจ เพื่อขยายอิทธิพลของสหรัฐฯ ในเอเชีย

ทางด้าน หวังเหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวในการแถลงข่าวประจำวันที่กรุงปักกิ่งว่า ความคิดเห็นของกิลเดย์นั้นเข้าข่ายการแทรกแซงกิจการในประเทศจีน และยืนยันว่าจีนไม่มีเจตนาที่จะโจมตีไต้หวันแต่อย่างใด อีกทั้งยังต่อต้านเรื่องนี้อย่างจริงจังอีกด้วย

ทั้งนี้ ไต้หวันเป็นประเทศที่เป็นเกาะและมีการปกครองของตนเอง ซึ่งจีนมองว่าเป็นอาณาเขตของตน และมีการประท้วงการขายอาวุธของสหรัฐฯ ให้กับเกาะไต้หวันอยู่เป็นประจำ โดยระบุว่าเป็นการยั่วยุ

อ้างอิง: