สหรัฐฯ เตือนมอสโกจัดฉากสร้างข้ออ้างฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เพื่อบุกยูเครน หลังเกิดเหตุกลุ่มกบฏหนุนรัสเซียยิงปืนใหญ่ปะทะกองทัพยูเครน

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ แถลงที่ทำเนียบขาววานนี้ (17 กุมภาพันธ์) โดยเตือนถึงข้อบ่งชี้ต่างๆ ที่ส่งสัญญาณว่ารัสเซียกำลังวางแผนที่จะเปิดฉากบุกยูเครนภายในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งรวมถึงการวางแผนปฏิบัติการติดธงปลอม (False Flag Operation) หรือการจัดฉากเพื่อหาข้ออ้างในการบุก

“เรามีเหตุผลที่จะเชื่อว่าพวกเขามีส่วนในปฏิบัติการจัดฉากเพื่อหาข้ออ้างที่จะเข้าไปในยูเครน ทุกข้อบ่งชี้ที่เรามีคือพวกเขาเตรียมพร้อมที่จะเข้าไปในยูเครนและโจมตียูเครน ความรู้สึกของผมคือมันจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า” ไบเดนกล่าว

ท่าทีของไบเดนมีขึ้นในขณะที่เกิดเหตุกองทัพรัฐบาลยูเครนยิงปืนใหญ่ปะทะกับกลุ่มกบฏสนับสนุนรัสเซียในพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครนช่วงเช้ามืดวานนี้ ซึ่งส่งผลให้อาคารบ้านเรือน รวมถึงโรงเรียนอนุบาลในแคว้นลูฮันสก์ได้รับความเสียหายหนัก โดยถือเป็นเหตุปะทะข้ามเส้นแบ่งหยุดยิงที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายเดือน

ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวหาว่าอีกฝ่ายเปิดฉากยิงปะทะก่อน โดยฝ่ายกบฏอ้างว่ากองทัพยูเครนนั้นเปิดฉากยิงโจมตีอย่างน้อย 4 ครั้งในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ขณะที่โฆษกรัฐบาลเครมลินเผยว่า รัสเซียกำลังติดตามสถานการณ์และมีความกังวลต่อรายงานการปะทะดังกล่าว พร้อมทั้งกล่าวหารัฐบาลเคียฟว่าพยายามที่จะกำจัดพลเรือน

เหตุปะทะรุนแรงที่เกิดขึ้นถูกจับตามองว่าอาจก่อให้เกิดสถานการณ์ตามที่เจ้าหน้าที่ของชาติตะวันตกเคยออกมาเตือนก่อนหน้านี้ว่า รัสเซียอาจพยายามหาข้ออ้างเพื่อรุกรานยูเครน

ซึ่งช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ยังย้ำคำกล่าวอ้างที่เป็นเท็จว่ายูเครนกำลังดำเนินการ ‘ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์’ ชนพื้นเมืองรัสเซียที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ขัดแย้งทางตะวันออกของยูเครน โดยทางการรัสเซียยังประกาศดำเนินการสืบสวน กรณีที่พบหลุมศพจำนวนมากของชนพื้นเมืองรัสเซีย ซึ่งอ้างว่าเป็นเหยื่อสังหารของกองทัพยูเครน

ด้านแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เปลี่ยนแผนกำหนดการ เพื่อไปร่วมการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่นครนิวยอร์ก

ซึ่งบลิงเคนกล่าวต่อที่ประชุมถึงสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการกระทำของรัสเซีย โดยเผยว่า จากข้อมูลข่าวกรองที่มีชี้ชัดว่ากองกำลังทหารรัสเซียที่กำลังปิดล้อมชายแดนยูเครนจาก 3 ด้าน กำลังเตรียมการที่จะโจมตียูเครนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

“มันอาจมีการแต่งเรื่องว่ามีเหตุระเบิดโดยฝีมือผู้ก่อการร้ายในรัสเซีย การค้นพบหลุมฝังศพจำนวนมากที่สร้างขึ้น การจัดฉากเหตุโจมตีพลเรือนด้วยโดรน หรือการโจมตีที่ปลอมหรือจริง โดยใช้อาวุธเคมี รัสเซียอาจบรรยายเหตุการณ์เหล่านี้ว่าเป็นการชำระล้างเผ่าพันธุ์หรือฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” บลิงเคนกล่าว

ขณะที่เขาบรรยายภาพขั้นตอนหากรัสเซียบุกยูเครน ซึ่งจะเริ่มจากการโจมตีด้วยขีปนาวุธและระเบิด และตัดการสื่อสาร รวมถึงการโจมตีทางไซเบอร์เพื่อปิดระบบหน่วยงานต่างๆ ของยูเครน ก่อนที่รถถังและกำลังทหารรัสเซียจะเคลื่อนไปยังเป้าหมายตามแผนที่วางไว้แล้ว

ด้านเซอร์เก เวอร์ชินิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ตอบโต้ข้อกล่าวหาของบลิงเคนว่าเป็นสิ่งที่น่าเศร้าและอันตราย โดยรัฐบาลเครมลินยังคงยืนยันว่าไม่มีแผนที่จะเปิดฉากบุกยูเครน พร้อมทั้งเผยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการถอนกำลังทหารออกจากชายแดน และปฏิเสธคำเตือนของสหรัฐฯ โดยชี้ว่าเป็น ‘การก่อการร้ายด้วยข้อมูลข่าวสาร’

ขณะเดียวกันหลายฝ่ายยังคงมีความพยายามทางการทูตเพื่อยับยั้งวิกฤตตึงเครียดที่เกิดขึ้น ซึ่งในวันนี้ (18 กุมภาพันธ์) ประธานาธิบดีไบเดนจะต่อสายพูดคุยกับผู้นำแคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี โปแลนด์ โรมาเนีย อังกฤษ สหภาพยุโรป และ NATO

ขณะที่บลิงเคนมีกำหนดการหารือกับผู้แทนชาติพันธมิตรในการประชุมความมั่นคงที่นครมิวนิกของเยอรมนี ซึ่งในปลายสัปดาห์หน้าเขายังมีกำหนดการหารือกับเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เพื่อขอความชัดเจนว่ารัสเซียจะไม่บุกยูเครนด้วย

อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียยิ่งเลวร้ายลง หลังจากที่มีรายงานว่ารัสเซียสั่งขับ บาร์ต กอร์แมน รองหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูตของสหรัฐฯ ออกจากสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงมอสโกเมื่อวานนี้ โดยไม่มีการอธิบายเหตุผล ซึ่งโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ชี้ว่ากำลังพิจารณาแนวทางการตอบโต้

โดยความเคลื่อนไหวของรัสเซียคาดว่าอาจเกี่ยวข้องกับกรณีที่รัฐบาลเครมลินอ้างว่าเจ้าหน้าที่การทูตอาวุโสของรัสเซียในวอชิงตันถูกบังคับให้ออกจากสหรัฐฯ ก่อนจะมีการส่งเจ้าหน้าที่คนใหม่ไปแทน ซึ่งรัสเซียกล่าวหาว่าเป็นส่วนหนึ่งของการทำ ‘สงครามวีซ่า’

ภาพ: Photo by Ukrainian Chief of General Staff / Handout/Anadolu Agency via Getty Images

อ้างอิง: