Antony Aumann ศาสตราจารย์ด้านปรัชญาที่ Northern Michigan University พบนักเรียนของเขาใช้ ChatGPT เขียน ‘เปเปอร์ที่ดีที่สุด’ ในคลาส ด้วยหัวข้อศีลธรรมของการห้ามแต่งบูร์กา พร้อมย่อหน้าที่ชัดเจน ตัวอย่างที่เหมาะสม และข้อโต้แย้งที่เข้มงวด
เขาจึงตัดสินใจเปลี่ยนวิธีการเขียนเรียงความในเทอมนี้ โดยวางแผนให้นักเรียนเขียนฉบับร่างในห้องเรียน ก่อนโดยใช้เบราว์เซอร์อินเทอร์เน็ตที่สามารถตรวจสอบและจำกัดกิจกรรมของคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นๆ ได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- โลกสะเทือนหรือไม่? การมาของ ‘ChatGPT’ จะ Disrupt วงการใดบ้าง
- รู้จัก ‘ChatGPT’ แชตบอตโด่งดังสุดอัจฉริยะ ที่กำลังเขย่าโลก ‘AI’ และอาจจุดชนวน Tech Disruption อีกครั้ง
- เจฟฟ์ มาจจิออนคัลดา ซีอีโอของ Coursera เตรียมปรับ ChatGPT เข้ากับคอร์สเรียนออนไลน์ และพัฒนาให้มีวิธีพูดเหมือน ‘ศาสตราจารย์ที่ฉลาดที่สุดในโลก’
และในฉบับที่สอง นักเรียนของเขาต้องอธิบายการแก้ไขแต่ละครั้งให้ได้ Aumann กล่าวว่าอาจยกเลิกการเขียนรายงานในเทอมต่อๆ ไป และเล็งผสาน ChatGPT ไว้ในบทเรียน โดยการให้นักเรียนของเขาประเมินคำตอบของแชตบอต
“ต่อจากนี้มันจะไม่ใช่การที่มนุษย์โต้ตอบกันเอง จะเป็นการถกกันเรื่องความคิดของหุ่นยนต์พวกนั้นมากกว่า”
การเกิดขึ้นของ AI ดังกล่าวทำให้อาจารย์มหาวิทยาลัย หัวหน้าแผนก และผู้บริหารกำลังเริ่มยกเครื่องห้องเรียนเพื่อตอบสนองต่อ ChatGPT แล้ว โดยพยายามกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการเรียนการสอน
อาจารย์บางคนกำลังออกแบบหลักสูตรใหม่ทั้งหมด เปลี่ยนแปลงโดยเพิ่มการสอบปากเปล่า การทำงานกลุ่ม และการประเมินที่เขียนด้วยลายมือแทนการพิมพ์ เพราะพบว่านักศึกษาของตัวเองใช้ ChatGPT ทำการบ้านแทน
การเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้แบบเรียลไทม์กับ Generative AI ตัวใหม่อย่าง ChatGPT ซึ่งเป็นแชตบอตโต้ตอบด้วยข้อความที่ชัดเจนและมีรายละเอียดปลีกย่อยเพื่อตอบสนองต่อข้อความสั้นๆ โดยผู้คนใช้มันเพื่อเขียนจดหมายรัก บทกวี แฟนฟิกชัน และการบ้าน
การมีตัวตนของ ChatGPT ทำให้พฤติกรรมของโรงเรียนมัธยมหลายแห่งเปลี่ยนไป ครูและผู้บริหารต่างพยายามแยกแยะว่านักเรียนกำลังใช้แชตบอตทำการบ้านหรือไม่ ระบบโรงเรียนของรัฐบางแห่ง รวมทั้งในนิวยอร์กซิตีและซีแอตเทิล ได้สั่งห้ามเครื่องมือนี้บนเครือข่ายและอุปกรณ์ WiFi ของโรงเรียนเพื่อป้องกันการโกง แม้ว่านักเรียนจะสามารถหาช่องโหว่เพื่อเข้าถึง ChatGPT ได้อย่างง่ายดาย
ในระดับอุดมศึกษา วิทยาลัย และมหาวิทยาลัย ต่างลังเลที่จะแบนเครื่องมือ AI เนื่องจากผู้ดูแลระบบมีข้อกังขาว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวจะได้ผลหรือไม่ และพวกเขาไม่ต้องการละเมิดเสรีภาพทางวิชาการ นั่นหมายถึงวิธีการสอนของผู้คนกำลังเปลี่ยนไป
โดยในมหาวิทยาลัยต่างๆ เช่น The George Washington University, Rutgers University ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ และ Appalachian State University ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา อาจารย์หลายคนกำลังหยุดสั่งการบ้านแบบ Take-Home และ Openbook พวกเขาเลือกที่จะมอบหมายงานในชั้นเรียน เอกสารที่เขียนด้วยลายมือ งานกลุ่ม และการสอบปากเปล่าแทน Assignment เช่น ‘เขียนเกี่ยวกับสิ่งนี้มา 5 หน้า’ อาจหายไป อาจารย์หลายคนหวังสร้างคำถามที่ฉลาดเกินไปสำหรับแชตบอต อย่างเช่นการขอให้นักศึกษาเขียนเกี่ยวกับชีวิตของตนเองและเหตุการณ์ปัจจุบัน
Frederick Luis Aldama ประธานสาขามนุษยศาสตร์แห่ง The University of Texas กล่าวว่า เขาวางแผนที่จะสอนข้อความใหม่ๆ หรือเฉพาะเจาะจงมากขึ้นที่ ChatGPT อาจมีข้อมูลน้อยกว่า เช่น บทเพลงนิพนธ์ของ William Shakespeare
แต่ในกรณีที่การเปลี่ยนแปลงไม่สามารถป้องกันการลอกเลียนแบบได้ เขาและอาจารย์คนอื่นๆ วางแผนไว้ว่าจะกำหนดมาตรฐานที่เข้มงวดขึ้นสำหรับสิ่งที่พวกเขาคาดหวังจากนักเรียนและวิธีให้คะแนน
“เราต้องยกระดับเกมของเรา” Aldama กล่าว “จินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรมของการวิเคราะห์ที่เราคาดหวังแค่กระดาษ A จำเป็นต้องเปลี่ยนไปเป็นกระดาษ B-Range”
ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยต่างๆ ยังมีเป้าหมายเพื่อให้ความรู้แก่นักเรียนเกี่ยวกับเครื่องมือ AI ใหม่ๆ อีกด้วย The University at Buffalo ในนิวยอร์ก และ Furman University ในกรีนวิลล์ รัฐเซาท์แคโรไลนา กล่าวว่าพวกเขาวางแผนที่จะรวมการอภิปรายเกี่ยวกับเครื่องมือ AI ไว้ในหลักสูตรบังคับที่สอนนักศึกษาใหม่เกี่ยวกับแนวคิดต่างๆ เช่น ความซื่อสัตย์ทางวิชาการ
“เราต้องเพิ่มบทเรียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อให้นักศึกษาสามารถเห็นตัวอย่างที่เป็นรูปธรรม” Kelly Ahuna ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมคุณธรรมทางวิชาการของ The University at Buffalo กล่าว “เราต้องการป้องกันไม่ให้สิ่งต่างๆ เกิดขึ้น แทนที่จะจับได้เมื่อมันเกิดขึ้นไปแล้ว”
มหาวิทยาลัยอื่นๆ พยายามที่จะกำหนดขอบเขตสำหรับ AI โดย Washington University ในเซนต์หลุยส์ และ The University of Vermont ในเบอร์ลิงตัน กำลังร่างแก้ไขนโยบายความซื่อสัตย์ทางวิชาการ ดังนั้นคำจำกัดความของการลอกจะรวมถึง Generative AI ด้วย
การใช้เครื่องมือ AI ในทางที่ผิดมักจะไม่จบสิ้น ดังนั้นอาจารย์และมหาวิทยาลัยบางแห่งกล่าวว่าพวกเขาวางแผนที่จะใช้เครื่องตรวจจับเพื่อกำจัดการใช้งานดังกล่าว Turnitin บริการตรวจจับการลอกเลียนแบบ กล่าวว่าจะเพิ่มฟีเจอร์ในการระบุการเขียนของ AI อาทิ ChatGPT ในปีนี้
อาจารย์กว่า 6,000 คนจาก Harvard University, Yale University, University of Rhode Island และคนอื่นๆ ได้ลงทะเบียนเพื่อใช้ GPTZero ซึ่งเป็นโปรแกรมที่สัญญาว่าจะตรวจจับข้อความที่สร้างขึ้นโดย AI ได้อย่างรวดเร็ว
อ้างอิง: