สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิดกลายพันธุ์โอไมครอนกำลังสั่นคลอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ส่งผลให้ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเมื่อวานนี้ (20 ธันวาคม) ปรับตัวร่วงลงอย่างหนัก
โดยดัชนีอุตสาหกรรม Dow Jones ปรับตัวลดลง 433.28 จุด หรือ 1.23 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 34,932.16 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ลดลง 52.62 จุด หรือ 1.14 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 4,568.02 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 188.74 จุด หรือ 1.31 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 14,980.94 จุด
แรงเทขายทั่วกระดานจนดัชนีปิดปรับตัวในแดนลบเมื่อวานนี้ (20 ธันวาคม) เกิดขึ้นท่ามกลางรายงานตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอนที่พุ่งขึ้นในนครนิวยอร์กและอีกหลายพื้นที่ทั่วสหรัฐฯ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สั่นคลอนความหวังของบรรดานักธุรกิจ นักลงทุน และประชาชนทั่วไป ที่กำลังเตรียมตัวกลับเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวตามปกติส่งท้ายปี
ขณะที่ในส่วนของนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันของอังกฤษ ประกาศจะใช้มาตรการต่างๆ เพิ่มเติมเพื่อชะลอการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์โอไมครอนหากจำเป็น หลังเนเธอร์แลนด์ประกาศล็อกดาวน์รอบ 4 และประเทศอื่นๆ กำลังพิจารณายกระดับมาตรการคุมเข้มต่างๆ เพิ่มเติม
นอกจากนี้ อีกปัจจัยลบฉุดตลาดหุ้นยังเกิดจากปัญหาติดขัดของร่างกฎหมายการลงทุนภายในประเทศของประธานาธิบดีโจ ไบเดน หลัง โจ แมนชิน วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ สังกัดพรรคเดโมแครต ระบุว่าจะไม่สนับสนุนร่างงบประมาณการลงทุนภายในประเทศวงเงิน 1.75 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้มีแนวโน้มว่าร่างกฎหมายดังกล่าวอาจถูกตีตก ซ้ำเติมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่มีแววว่าจะย่ำแย่อยู่แล้ว
การระบาดของโอไมครอนยังทำให้แนวโน้มความต้องการใช้น้ำมันลดลง จนส่งผลให้ราคาน้ำมันดิ่งลงอย่างแรงในวันจันทร์ที่ผ่านมา (20 ธันวาคม) โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 2.63 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 68.23 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ด้านน้ำมันดิบเบรนต์ ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 2 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 71.52 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
ส่วนราคาทองคำในวันจันทร์ ปิดปรับตัวติดลบพอสมควร ท่ามกลางแรงเทขายในช่วงต้นของสัปดาห์วันคริสต์มาส โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 10.30 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 1,794.60ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จาก AMB AMRO ประเมินว่าทิศทางราคาทองคำที่น่าผิดหวังในปีนี้มีแนวโน้มจะลากยาวไปจนถึงปี 2022 และปี 2023 โดยเฉพาะในปีหน้าอาจมีสิทธิ์เป็นปีหายนะของทองคำ ที่ทั่วโลกจะได้เห็นราคาทองคำร่วงลงแตะระดับ 1,500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือลดลง 16 เปอร์เซ็นต์จากราคาในปัจจุบัน ขณะที่ในปี 2023 มีความเป็นไปได้ที่จะปรับลดลงจนแตะ 1,300 ดอลลาร์สหรัฐ
นักกลยุทธ์อาวุโสด้านตลาดโลหะมีค่าของดัตช์แบงก์กล่าวว่า สาเหตุหลักที่ทำให้ราคาทองคำร่วงแรงก็คือการปรับเปลี่ยนนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางในหลายประเทศทั่้วโลก นำโดยสหรัฐฯ ที่หันมาใช้มาตรการที่เข้มงวดกวดขัน ซึ่งรวมถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
อ้างอิง:
- https://www.kitco.com/news/2021-12-20/Gold-price-to-drop-16-to-1-500-in-2022-2023-doesn-t-look-any-better-ABN-AMRO.html
- https://edition.cnn.com/2021/12/20/investing/markets-stocks-oil/index.html
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP
