×

หุ้นสหรัฐฯ ปิดตลาดแย่สุดในรอบ 6 เดือน หลังทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีจีน 100% อีกรอบ

11.10.2025
  • LOADING...
หุ้นสหรัฐ ภาษีจีน

ในวันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม ตามเวลาท้องถิ่น โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศว่า จะยกระดับกำแพงภาษีกับจีนขึ้นอีก 100% รวมถึงควบคุมการส่งออก ‘ซอฟต์แวร์สำคัญ’ ไปยังจีน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ 

 

ก่อนคำประกาศดังกล่าวไม่กี่ชั่วโมง ทรัมป์ขู่ว่าจะยกเลิกการประชุมกับสี จิ้นผิง (Xi Jinping) ประธานาธิบดีจีน ที่กำหนดจัดขึ้นนอกรอบการประชุมสุดยอดกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) อีกด้วย 

 

โดยงานประชุมดังกล่าว มีกำหนดจัดขึ้น ณ เมืองคยองจู สาธารณรัฐเกาหลี ในวันที่ 31 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน

 

ทรัมป์โพสต์ลงบนโซเชียลมีเดียว่า “เพิ่งทราบว่าจีนได้แสดงท่าทีก้าวร้าวอย่างยิ่งต่อการค้า โดยส่งจดหมายแสดงความเป็นปฏิปักษ์อย่างรุนแรงไปทั่วโลก ระบุว่า จีนจะบังคับใช้มาตรการควบคุมการส่งออก (Export Controls) ขนาดใหญ่ต่อผลิตภัณฑ์เกือบทุกชนิดที่พวกเขาผลิต ซึ่งบางชนิดพวกเขาไม่ได้ผลิตด้วยซ้ำ โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป”

คำขู่ดังกล่าวทำให้การค้าโลกกลับมาปั่นป่วนอีกครั้ง และปลุกความกังวลว่า สองประเทศซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่สุดของโลกจะตัดความสัมพันธ์กันอย่างสิ้นเชิงหรือไม่ ตลอดจนยกระดับเดิมพันการเจรจาการค้าระหว่างทรัมป์ และสีให้สูงขึ้น

 

อย่างไรก็ตาม ทรัมป์หงายไพ่ว่าจะยอมถอยและไม่ขึ้นภาษี หากจีนถอยเรื่องการควบคุมการส่งออกแร่หายาก (Rare Earth) เช่นกัน ทั้งยังเปิดความเป็นไปได้ที่จะพบสี จิ้นผิงในปลายเดือนตุลาคมนี้อีกด้วย

“ดังนั้น ผมเลยกำหนดให้เป็นวันที่ 1 พฤศจิกายนไงล่ะ เดี๋ยวได้เห็นกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น” ทรัมป์กล่าว

หากทรัมป์ขึ้นภาษีอีก 100% จะทำให้สินค้านำเข้าจากจีนจำนวนมากถูกสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีในอัตรา 130% ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม อัตราดังกล่าวยังคงต่ำกว่าระดับ 145% ที่เคยกำหนดไว้ในช่วงต้นปีเล็กน้อย ก่อนที่ทั้งสองประเทศจะทำข้อตกลงสงบศึก และลดระดับการจัดเก็บภาษีลงได้

 

‘หุ้นเทค’ สหรัฐฯ ร่วงยกแผง

 

ตลาดหุ้นในวันศุกร์หดตัวทันทีรับคำขู่ของทรัมป์ โดยหุ้นสหรัฐฯ ถูกเทขายหนักสุดในรอบ 6 เดือน ดัชนี S&P 500 ร่วงลง 2.7% ทำให้กำไรของทั้งสัปดาห์หายลับไป และเป็นการปิดตลาดที่แย่สุดนับตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน ดัชนี Nasdaq 100 ดิ่งลง 3.5% และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าถั่วเหลืองในชิคาโกร่วงลงถึง 1.9% 

 

ดัชนีความกลัวในตลาดหุ้นสหรัฐฯ หรือ CBOE Volatility Index พุ่งสูงกว่า 22 จุด ส่งสัญญาณว่านักลงทุนกำลังเร่งซื้อเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงโดยเลือกซื้อออปชันมากขึ้น 

 

หุ้นที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดเป็นกลุ่มเทคโนโลยี โดย หุ้น Nvidia ร่วงลงประมาณ 5% ขณะที่ AMD ร่วงลงเกือบ 8% และ Tesla ร่วงราว 5% ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลงเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่ากำแพงภาษีจะฉุดอุปสงค์ให้อ่อนแอลงกว่าเดิม

 

Art Hogan หัวหน้านักกลยุทธ์การตลาดของ B. Riley Wealth กล่าวกับ CNBC ว่า “ไม่ใช่เรื่องแปลกที่หุ้นในกลุ่มเทคจะได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากบริษัทเหล่านี้พึ่งพาวัตถุดิบ การผลิตจากจีน รวมถึงลูกค้ารายใหญ่จากจีนด้วย”

 

ก่อนการประชุมสุดยอดระหว่างทรัมป์และสี จิ้นผิง ที่จะถึงนี้ ทั้งสหรัฐฯ และจีนต่างเคลื่อนไหวเพื่อควบคุมการไหลเวียนของเทคโนโลยี และวัตถุดิบระหว่างกัน ล่าสุด จีนขึ้นค่าเทียบเรือกับเรือของสหรัฐฯ และเริ่มสอบสวนการผูกขาด (Antitrust) ต่อบริษัท Qualcomm Inc. เพื่อคุมการไหลเวียนของแร่หายากที่จำเป็นต่อการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคจำนวนมาก ตลอดจน มอเตอร์ เซมิคอนดักเตอร์ และเครื่องบินขับไล่

 

มาตรการต่างๆ ซึ่งทวีภัยคุกคามต่อการค้า อาจเป็นเพียงหนทางเพื่อแย่งชิงความได้เปรียบในการเจรจาที่จะถึง โดยมาตรการล่าสุดของรัฐบาลจีนจะมีผลในวันที่ 8 พฤศจิกายน ซึ่งยังไม่มีผลก่อนการเจรจา

 

อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนต่างต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ตลอดจนภัยคุกคามที่ยกระดับรุนแรงมากขึ้นจากทรัมป์

 

เวนดี้ คัตเลอร์ (Wendy Cutler) อดีตผู้เจรจาการค้าของสหรัฐฯ กล่าวว่า “การโต้ตอบกันไปมาระหว่างสหรัฐฯ และจีน แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีที่เปราะบาง ซึ่งไม่อาจมั่นใจได้ว่าจะมีความใจเย็นเกิดขึ้น และลดระดับความตึงเครียดได้ทัน”

 

นอกจากนี้ ทรัมป์แหย่อีกด้วยว่าอาจเพิ่มข้อจำกัดการส่งออก กับเครื่องบินและชิ้นส่วนเครื่องบิน 

 

อย่างไรก็ตาม สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ได้ประกาศเมื่อวันศุกร์ว่าจะกำหนดภาษี 100% กับเครนยกขนตู้สินค้าหน้าท่า (Ship-to-Shore Crane) และเครื่องมือยกขนสินค้า ซึ่งมุ่งเป้าไปยังอุปกรณ์ท่าเรือที่ผลิตจากจีน

 

เป็นไปตามแผนของ USTR ซึ่งประกาศเมื่อต้นปีนี้ว่าจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากเรือที่สร้างในจีน ไม่เพียงเท่านั้น USTR ยังระบุด้วยว่ากำลังเสนอให้อุปกรณ์ขนถ่ายสินค้าบางประเภทที่นำเข้าจากจีนต้อง “เสียภาษีเพิ่มเติมสูงสุดถึง 150%”

 

การประกาศของทรัมป์ในวันศุกร์สร้างความไม่แน่นอนไปทั่วบรรยากาศ ไม่เพียงเฉพาะวาระการเดินทางไปยังเอเชีย แต่ยังรวมถึงทิศทางการเจรจาการค้ากับจีน หลังจีนปฏิเสธที่จะซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ ซึ่งจะกระทบเกษตรกรสหรัฐฯ อย่างมาก ทั้งนี้ เจมีสัน เกรเออร์ (Jamieson Greer) ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ กล่าวในการสัมภาษณ์กับ Fox News เมื่อวันศุกร์ว่า USTR กำลังหาทางออกให้กับเกษตรกรชาวสหรัฐฯ 

วัตถุดิบแร่หายากเป็นประเด็นหลักในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนเรื่อยมา ซึ่งทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะสงบศึกในเดือนมิถุนายน ทำให้ทรัมป์ยอมลดอัตราภาษี และจีนยอมส่งแร่หายากไปยังสหรัฐฯ ต่อไป

 

แต่เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม จีนกำหนดให้ผู้ส่งออกสินค้าใดก็ตาม ที่ประกอบด้วยแร่หายาก แม้เพียงเล็กน้อย ต้องขอใบอนุญาตส่งออกจากกระทรวงพาณิชย์ โดยอ้างถึงความกังวลต่อความมั่นคงแห่งชาติ รวมถึง อุปกรณ์และเทคโนโลยีสำหรับการแปรรูปแร่หายาก หรือทำแม่เหล็ก ก็จะถูกควบคุมเช่นกัน

 

อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ใดบ้างของสหรัฐ ที่อาจได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษีรอบใหม่ที่อาจเกิดขึ้นของทรัมป์ 

การเคลื่อนไหวของทรัมป์ถือเป็นการเปลี่ยนน้ำเสียงอย่างกะทันหันภายในเวลาชั่วข้ามคืน ก่อนหน้านั้น ทรัมป์ยังแสดงมุมมองเชิงบวกว่าอาจกล่อมให้จีนยุติการระงับซื้อถั่วเหลืองได้

 

อ้างอิง:

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising