CNN รายงานอ้างเอกสารภายในของรัฐบาลสหรัฐฯ ว่า ทำเนียบขาวกำลังร่างหนังสือให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ใช้ในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติตามแนวพรมแดนเม็กซิโก เพื่อเดินหน้าสร้างกำแพงมูลค่า 7 พันล้านเหรียญสหรัฐ หลังวุฒิสภาโหวตคัดค้านร่างกฎหมายงบประมาณ 2 ฉบับ ซึ่งส่งผลให้ภาวะชัตดาวน์ยืดเยื้อต่อ
เมื่อวานนี้ (24 ม.ค.) วุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติไม่รับร่างกฎหมายงบประมาณที่ผลักดันโดยสมาชิกพรรครีพับลิกัน ด้วยคะแนนเสียง 50-47 คะแนน ตามมาด้วยการโหวตคัดค้านร่างกฎหมายอีกฉบับที่เสนอโดยสมาชิกเดโมแครตด้วยคะแนนเสียง 52-44 คะแนน ส่งผลให้หน่วยงานรัฐบาลยังคงปิดทำการบางส่วนต่อไป เนื่องจากไม่มีงบประมาณใช้จ่าย
ประเด็นขัดแย้งที่ทำให้สภาคองเกรสไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณจนเกิดภาวะชัตดาวน์ยืดเยื้อนาน 34 วัน เป็นเพราะทำเนียบขาวและรีพับลิกันต้องการเงินงบประมาณสำหรับสร้างกำแพงบริเวณชายแดนเม็กซิโกเพื่อป้องกันผู้อพยพผิดกฎหมาย แต่เดโมแครตซึ่งครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรไม่เห็นด้วย และพยายามต่อรองโดยลดจำนวนเงินลง
อย่างไรก็ตาม มีสมาชิกเดโมแครตสายอนุรักษ์นิยมคนหนึ่งที่สนับสนุนแผนสร้างกำแพงของรีพับลิกัน ซึ่งเสนอให้จัดสรรงบประมาณ 5.7 พันล้านเหรียญสหรัฐสำหรับสร้างกำแพง
ก่อนหน้านี้ทรัมป์แย้มว่าเขาอาจใช้อำนาจประธานาธิบดีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และสั่งการให้กระทรวงกลาโหมสร้างกำแพงตามแนวชายแดนเม็กซิโก
ร่างประกาศของทรัมป์ที่ CNN ได้รับมา ระบุว่า “คนต่างด้าวจำนวนมหาศาลที่เดินทางเข้าสหรัฐอเมริกาอย่างผิดกฎหมายในแต่ละวัน คือภัยคุกคามโดยตรงต่อความปลอดภัยและความมั่นคงของประเทศเรา และถือเป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน
“ดังนั้น ผม โดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ซึ่งได้รับมอบอำนาจจากรัฐธรรมนูญและกฎหมายของสหรัฐอเมริกา รวมถึงรัฐบัญญัติว่าด้วยสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติ จึงขอประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติในบริเวณชายแดนทางใต้ของสหรัฐอเมริกา” ร่างประกาศระบุ
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: