กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ตัดสินใจยังไม่เรียกจีนเป็นประเทศที่ปั่นค่าเงิน (Currency Manipulator) แต่ได้เพิ่มบัญชีรายชื่อประเทศที่อยู่ในข่ายต้องจับตา (Watch List) รวม 9 ประเทศ ซึ่งรวมจีนอยู่ในนั้น
รัฐบาลสหรัฐฯ ระบุในรายงานถึงสภาคองเกรสว่า ขณะนี้ไม่มีประเทศใดที่อยู่ในเกณฑ์ต้องถูกขึ้นบัญชีกลุ่มประเทศที่ควบคุมค่าเงินเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการค้าอย่างไม่เป็นธรรมกับสหรัฐฯ ส่งผลให้จีนยังไม่ถูกเรียกว่า ‘Currency Manipulator’ แต่จีนยังอยู่ในรายชื่อที่ต้องเฝ้าจับตาร่วมกับอีก 8 ประเทศที่ได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐฯ ได้แก่ เยอรมนี ไอร์แลนด์ อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม
ทั้งนี้ตามกฎหมายสหรัฐฯ กระทรวงการคลังจะต้องส่งรายงานสถานการณ์การควบคุมค่าเงินของประเทศต่างๆ ต่อสภาคองเกรสทุกๆ 6 เดือน โดยในรายงานฉบับก่อนซึ่งออกในเดือนตุลาคมมีอินเดียและสวิตเซอร์แลนด์อยู่ในบัญชี Watch List ด้วย แต่กระทรวงการคลังได้ตัดสินใจถอดออกในเวลาต่อมา แต่ยังคงชื่อของเยอรมนี ญี่ปุ่น จีน และเกาหลีใต้ ไว้ตามเดิม
สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุในแถลงการณ์ว่า “กระทรวงการคลังสหรัฐฯ กำลังทำงานอย่างกระฉับกระเฉงเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเจริญเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และเพื่อสร้างหลักประกันว่าการค้าจะขยายตัวในทางที่จะช่วยเหลือแรงงานสหรัฐฯ”
นอกจากจีนแล้วยังไม่เคยมีประเทศใดที่ถูกระบุเป็นประเทศที่ปั่นค่าเงินนับตั้งแต่ยุคของรัฐบาลประธานาธิบดีบิล คลินตัน ในปี 1994 โดยหลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2017 เขาเคยประกาศเตือนว่าจะเรียกจีนเป็น Currency Manipulator หลายครั้ง แต่ก็เลี่ยงมาตลอด
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: