กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตร แคร์รี ลัม ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ด้วยข้อกล่าวหาใช้นโยบายของรัฐบาลจีนลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนและขัดขวางกระบวนการประชาธิปไตย โดยนอกจากลัมแล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีก 10 คนของฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่ก็ถูกคว่ำบาตรในครั้งนี้ด้วย
ในแถลงการณ์ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่า ในปี 2019 ลัมผลักดันให้มีการแก้ไขกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งเปิดทางให้สามารถส่งผู้ต้องสงสัยไปดำเนินคดีในจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งจุดกระแสการประท้วงในฮ่องกง ขณะที่ สตีเวน มนูชิน ขุนคลังของสหรัฐฯ ระบุว่า มาตรการคว่ำบาตรครั้งนี้มีขึ้นเพื่อลงโทษบุคคลที่ทำลายระบบการปกครองตนเองของฮ่องกง
“สหรัฐอเมริกายืนเคียงข้างประชาชนฮ่องกง และเราจะใช้เครื่องมือและอำนาจของเราลงโทษบุคคลที่ทำลายการปกครองตนเองของพวกเขา” มนูชินกล่าว
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่จีนบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกงเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งเปิดทางให้ทางการสามารถจับกุม สอดส่อง และดำเนินคดี กับผู้กระทำผิดที่เข้าข่ายปลุกปั่น สร้างความแตกแยก พยายามแบ่งแยกดินแดน ก่อการร้าย และสมคบคิดต่างชาติคุกคามอธิปไตยของจีน โดยกฎหมายดังกล่าวผลักดันโดยไม่ผ่านการพิจารณาในสภานิติบัญญัติของฮ่องกง ซึ่งถูกมองว่าทำลายอำนาจการปกครองตนเองของฮ่องกงอย่างสิ้นเชิง
อย่างไรก็ตาม จีนยืนกรานมาตลอดว่า กฎหมายดังกล่าวเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อหยุดยั้งการก่อเหตุรุนแรงและการแทรกแซงจากต่างชาติดังที่เกิดขึ้นในระหว่างการประท้วงเมื่อปีที่แล้ว
ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนตึงเครียดขึ้นทุกขณะ โดยก่อนหน้าการประกาศคว่ำบาตรผู้บริหารฮ่องกงเพียงไม่กี่ชั่วโมง ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามคำสั่งพิเศษประธานาธิบดีห้ามชาวอเมริกันทำธุรกรรมกับแอปฯ โซเชียลมีเดียยอดนิยมของจีนอย่าง TikTok ของ ByteDance และ WeChat ของ Tencent ส่งผลให้หุ้นเทคโนโลยีจีนร่วงลงอย่างหนักในตลาดหุ้นฮ่องกงเมื่อวานนี้ (7 สิงหาคม)
มาตรการคว่ำบาตรครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในบทลงโทษขั้นรุนแรงที่สหรัฐฯ ได้ประกาศต่อเจ้าหน้าที่จีนและฮ่องกง หลังจากก่อนหน้านี้สหรัฐฯ ตัดสินใจถอดสถานภาพพิเศษของฮ่องกงภายใต้กฎหมายของสหรัฐฯ ซึ่งจะทำให้ฮ่องกงไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ในด้านการค้าและเศรษฐกิจกับสหรัฐฯ ดังที่เคยเป็นมาอีกต่อไป
สำหรับบุคคล 11 คนที่ถูกคว่ำบาตรครั้งนี้ จะถูกยึดทรัพย์สินทั้งหมดที่มีอยู่ในสหรัฐฯ รวมถึงอายัดเงินหรือสินทรัพย์ทางการเงินด้วย
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: