ธนาคาร UBS ของสวิตเซอร์แลนด์ รายงานว่า ในปี 2024 ที่ผ่านมา สหรัฐฯ มีเศรษฐีหน้าใหม่เพิ่มขึ้น 379,000 คน หรือเฉลี่ยมากกว่าวันละ 1,000 คน คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 1.5% ทำให้ตัวเลขภาพรวมกลุ่มคนที่ร่ำรวยแตะ 23.8 ล้านคน เรียกว่ามากที่สุดในโลก โดยปัจจัยที่ทำให้มีเศรษฐีหน้าใหม่ มาจากแรงหนุนของตลาดการเงินและค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งแกร่ง
ถึงอย่างนั้น ประเมินว่าในปี 2025 จำนวนเศรษฐีหน้าใหม่อาจไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก เนื่องจากสถานการณ์เริ่มเปลี่ยนแปลง ตลาดการเงินไม่มั่นคงเท่าเดิม บวกกับสงครามการค้าภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทั้งหมดล้วนสร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดการเงิน และกดดันค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งปรับตัวลดลงประมาณ 9% แล้วในปีนี้
เจมส์ มาโซ นักเศรษฐศาสตร์ของ UBS กล่าวว่า ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าความมั่งคั่งของชาวอเมริกันจะลดลง แม้ดอลลาร์อ่อนค่าจะกระทบในสหรัฐฯ แต่กลับเป็นผลดีต่อความมั่งคั่งในประเทศอื่นที่ใช้สกุลเงินแข็งกว่า เท่ากับว่าทรัพย์สินที่มีมูลค่าเป็นดอลลาร์จะดูมีค่ามากขึ้นในสายตาของผู้ถือเงินต่างสกุล ซึ่งจะทำให้เศรษฐีในประเทศอื่นๆ ดูรวยมากขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เศรษฐีหน้าใหม่อเมริกาเพิ่มขึ้น 6 แสนคนในปี 2023 รวยขึ้นจากหุ้นเทคโนโลยี AI
- ทำเนียบ 10 อันดับมหาเศรษฐีที่ ‘รวยที่สุด’ ของโลก ประจำปี 2023
- คนท็อป 1% รวยฉ่ำ ความมั่งคั่งพุ่งเป็นประวัติการณ์เฉียด 45 ล้านล้านดอลลาร์
รองลงมาคือจีนแผ่นดินใหญ่ ตามมาเป็นอันดับสอง มีเศรษฐีหน้าใหม่เพิ่มขึ้น 141,000 คน รวมๆ แล้วเพิ่มขึ้น 2.3% จากปีก่อน ทำให้มีกลุ่มคนร่ำรวยอยู่ทั้งหมด 6.3 ล้านคน
ขณะเดียวกัน ตุรกี ก็เริ่มเป็นประเทศที่มีเศรษฐีเพิ่มขึ้นเร็วที่สุด โดยพุ่งขึ้นถึง 8.4% ทำให้มีเศรษฐีรวม 87,000 คน แสดงให้เห็นว่าแม้ตุรกีจะมีเศรษฐีรวมไม่มากเมื่อเทียบกับสหรัฐฯ หรือจีน แต่สัดส่วนการเติบโตของจำนวนเศรษฐีในประเทศกลับสูงที่สุด
รวมไปถึงสวิตเซอร์แลนด์ แม้จะเป็นประเทศขนาดเล็ก แต่กลับมีเศรษฐีหนาแน่น สะท้อนจากคนวัยทำงาน 1 ใน 7 คน มีทรัพย์สินเกิน 1 ล้านดอลลาร์
แต่สวนทางกับประเทศญี่ปุ่น มีจำนวนเศรษฐีลดลงถึง 33,000 คน จากปัญหาประชากรหดตัว
ทั้งนี้ โดยรวมแล้ว จำนวนเศรษฐีทั่วโลกเพิ่มขึ้นแตะ 60 ล้านคนในปีที่ผ่านมา แม้จำนวนโดยรวมจะเพิ่มขึ้น แต่มีการหมุนเวียนเปลี่ยนแปลงสูง เช่น บางคนหลุดจากสถานะมหาเศรษฐี และบางคนเพิ่งขึ้นมาเป็นมหาเศรษฐีหน้าใหม่
สะท้อนให้เห็นว่าแม้แต่ในกลุ่มเศรษฐี ความมั่งคั่งก็ยังไม่กระจายเท่ากัน โดยธนาคาร UBS ของสวิตเซอร์แลนด์ ระบุว่า มีแค่คนรวย 60 ล้านคนเท่านั้นที่ถือครองทรัพย์สินในสัดส่วนเกือบครึ่งของทรัพย์สินทั่วโลก โดยในจำนวนนั้น มีเพียง 15 คนที่ร่ำรวยระดับ centi-billionaire ที่ถือเงินรวมกันถึง 2.4 ล้านล้านดอลลาร์
พร้อมย้ำว่า ความเหลื่อมล้ำนี้เกิดจากความสำเร็จของหุ้นกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีและผู้ประกอบการรายใหญ่ที่รวยแบบก้าวกระโดด
ภาพ: Kitreel / Shutterstock
อ้างอิง: