กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) หรือเงินเฟ้อทั่วไปของสหรัฐฯ ในเดือนเมษายนปรับตัวขึ้น 8.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ชะลอตัวลงเล็กน้อยจากเดือนมีนาคมที่เงินเฟ้อพุ่งขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี ที่ 8.5% แต่ยังคงสูงกว่าตัวเลขที่ตลาดคาดการณ์เอาไว้ที่ 8.1%
สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานซึ่งไม่รวมการคำนวณราคาน้ำมันและอาหาร ปรับเพิ่มขึ้น 6.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลงจากตัวเลขในเดือนมีนาคมที่ 6.5% แต่ยังคงสูงกว่าตัวเลขที่ตลาดคาดการณ์เอาไว้ที่ 6% เช่นกัน
ภาวะเงินเฟ้อกำลังเป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ จากโควิด โดยนอกจากปัญหาเงินเฟ้อจากราคาพลังงานและราคาสินค้าอุปโภคบริโภคแล้ว ปัจจุบันสหรัฐฯ ยังเริ่มเห็นสัญญาณเงินเฟ้อในภาคอสังหาริมทรัพย์ ราคายานยนต์ และภาคส่วนอื่นๆ แล้วด้วย
ก่อนหน้านี้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้ออกมาระบุว่าจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่องจนกว่าตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ จะลดลงมาอยู่ที่ระดับเป้าหมายที่ 2% ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในเดือนล่าสุดนี้จึงสะท้อนว่า Fed ยังมีงานใหญ่รออยู่
