ตำรวจสหรัฐฯ เร่งสืบสวนและตามล่าตัวมือปืนที่ก่อเหตุลอบยิงสังหารชาร์ลี เคิร์ก นักเคลื่อนไหวทางการเมืองชื่อดังวัย 31 ปี และพันธมิตรคนสำคัญของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งถูกลอบยิงเข้าที่ลำคอระหว่างปราศรัยท่ามกลางฝูงชนหลายพันคนภายในงาน American Comeback Tour ที่มหาวิทยาลัย Utah Valley ในเมืองโอเรม รัฐยูทาห์ วานนี้ (10 กันยายน)
โดยจนถึงขณะนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุตัวมือปืนที่ก่อเหตุ รวมถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ ขณะที่ตำรวจได้มีการจับกุมผู้ต้องสงสัย 2 คน ก่อนที่จะปล่อยตัวภายหลังยืนยันได้ว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ
แอนดรูว์ แมคเคบ รองผู้อำนวยการ FBI ระบุว่าการสืบสวนของทางการ ตอนนี้พุ่งเป้าไปยัง 2 พื้นที่ คือจุดเกิดเหตุที่มหาวิทยาลัย Utah Valley ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่ามือปืนได้ยิงเคิร์กจากบนดาดฟ้า
ส่วนจุดที่สองคือ พื้นที่ที่ขยายออกไปจากบริเวณที่มือปืนอยู่ โดยเจ้าหน้าที่เชื่อว่ามือปืนไม่น่าจะอยู่ในพื้นที่มหาวิทยาลัย และได้ยกเลิกการปิดล้อมพื้นที่แล้ว โดยกำลังเร่งดำเนินการตรวจสอบคลิปวิดีโอใดๆ ที่มีการบันทึกภาพในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งรวมถึงดาดฟ้า ทางเดิน และโรงจอดรถ เพื่อระบุตัวบุคคลที่อาจเป็นคนร้าย ขณะที่ตำรวจจำเป็นต้องค้นหาและสอบสวนทุกคนในพื้นที่
ทั้งนี้ แมคเคบชี้ว่ามือปืนนั้นเป็นอันตราย โดยสามารถก่อเหตุท่ามกลางผู้คนหลายพันคน และลงมือได้อย่างชำนาญ
“บุคคลนี้รู้ดีว่าการถูกจับกุมหมายถึงการถูกจำคุกตลอดชีวิต หรืออาจได้รับโทษประหารชีวิต ดังนั้น เมื่อต้องเผชิญกับความเสี่ยงดังกล่าว คนๆ นี้ จึงต้องหลบหนีและใครก็ตามที่ขัดขวางการหลบหนีของเขาคือคนที่เอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยง” แมคเคบ กล่าว
ด้านทรัมป์ ได้โพสต์วิดีโอใน Truth Social กล่าวว่าเขา “เต็มไปด้วยความเศร้าโศกและความโกรธแค้นต่อการลอบสังหารชาร์ลี เคิร์กอย่างโหดร้าย”
“ชาร์ลีสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนหลายล้านคน และคืนนี้ทุกคนที่รู้จักและรักเขาต่างตกตะลึงและหวาดกลัวไปพร้อมๆ กัน ชาร์ลีเป็นผู้รักชาติที่อุทิศชีวิตให้กับการอภิปรายอย่างเปิดเผยและเพื่อประเทศที่เขารักยิ่ง นั่นคือสหรัฐอเมริกา” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าว และชี้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “เป็นช่วงเวลาที่มืดมนสำหรับอเมริกา”
ภาพ: REUTERS/Jim Urquhart
อ้างอิง:
