ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศถอนตัวไม่รับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงสมัครชิงประธานาธิบดีในศึกเลือกตั้งปลายปีนี้ พร้อมสนับสนุนรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส (Kamala Harris) ให้ได้รับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรคคนใหม่
ชื่อของแฮร์ริสเป็นที่รู้จักในฐานะรองประธานาธิบดีหญิงผิวดำคนแรกของสหรัฐฯ โดยเธอถูกจับตามองในช่วงที่ผ่านมาว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะรับไม้ต่อจากไบเดน แม้จะยังมีข้อกังขาในบทบาทและผลงานในฐานะรองประธานาธิบดีที่ไม่โดดเด่นนัก อีกทั้งโพลสำรวจความนิยมยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ
ขณะที่คำถามสำคัญคือ เธอ ‘มีดีพอ’ ที่จะเอาชนะอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกันได้หรือไม่?
แฮร์ริส วัย 59 ปี เกิดที่เมืองโอ๊กแลนด์ (Oakland) รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยมีมารดาเป็นผู้อพยพชาวอินเดีย และบิดาเป็นชาวจาเมกา โดยเธอเรียนปริญญาตรีสาขารัฐศาสตร์และเศรษฐศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยโฮเวิร์ดในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ก่อนจะได้รับปริญญาด้านกฎหมายจากวิทยาลัยนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย
ประสบการณ์ทำงานของเธอ มีทั้งการเป็นอัยการเขตในซานฟรานซิสโก และได้รับเลือกเป็นอัยการสูงสุดของรัฐแคลิฟอร์เนีย ก่อนจะได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาในปี 2016 และเป็นหนึ่งในผู้วิพากษ์วิจารณ์นโยบายของทรัมป์อย่างเข้มข้น
แฮร์ริสเคยลงสมัครเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีมาแล้วในปี 2020 แต่ไม่ได้รับความสนใจและไม่ค่อยมีใครกล่าวถึงนักแม้ในช่วงเลือกตั้งขั้นต้น เนื่องจากบทบาทและการดีเบตแสดงวิสัยทัศน์ที่ถูกมองว่าไร้ชีวิตชีวา
อย่างไรก็ตาม เธอก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำอันดับ 2 ของสหรัฐฯ หลังไบเดนประกาศในการชิงประธานาธิบดีปี 2020 ว่าจะเลือกผู้หญิงเป็นคู่ชิงรองประธานาธิบดี ซึ่งการเลือกแฮร์ริสถูกมองว่าเป็นความพยายามเพื่อดึงดูดผู้ลงคะแนนผิวดำ และเพิ่มฐานเสียงให้แก่พรรค
ทั้งนี้ แฮร์ริสถือเป็นผู้หญิงผิวดำและเป็นบุตรสาวของผู้อพยพคนแรก ที่ดำรงตำแหน่งระดับสูงต่างๆ ของสหรัฐฯ ทั้งอัยการสูงสุด และรองประธานาธิบดี
ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า การทำหน้าที่ของเธอในฐานะรองประธานาธิบดีนั้นเป็นไปตามแบบแผนทั่วไปและไร้ความโดดเด่น โดยเธอสนับสนุนนโยบายหลักต่างๆ ของไบเดน ทั้งกฎหมายโครงสร้างพื้นฐาน การเข้าเมือง การควบคุมอาวุธปืน และความพยายามปกป้องสิทธิในการทำแท้ง
โพลล่าสุดจาก Decision Desk HQ (DDHQ) and The Hill ชี้ว่า คะแนนนิยมของแฮร์ริสตามหลังทรัมป์อยู่ที่ 45.4% ต่อ 47.4% ขณะที่โพลจากหลายสำนักยังชี้ว่า เธอมีแนวโน้มที่จะเอาชนะทรัมป์ได้มากกว่าไบเดน
แต่ถึงแม้ว่าไบเดนจะสนับสนุนแฮร์ริส ก็ไม่ได้หมายความว่าสมาชิกพรรคทั้งหมดจะสนับสนุนเธอ โดยคำตอบว่าเธอจะได้ตั๋วชิงเก้าอี้ผู้นำทำเนียบขาวหรือไม่ อยู่ที่การเสนอชื่อในการประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตในวันที่ 19-22 สิงหาคมนี้
ภาพประกอบ: ธิดามาศ เขียวเหลือ
อ้างอิง: