ด็อกเตอร์แอนโทนี เฟาชี ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติว่าด้วยโรคติดเชื้อและภูมิแพ้ของสหรัฐฯ และสมาชิกคณะทำงานรับมือโควิด-19 ของทำเนียบขาว ให้สัมภาษณ์เรื่องมาตรการรับมือโควิด-19 ในรายการ 60 Minutes ของสถานีโทรทัศน์ CBS เมื่อคืนวันอาทิตย์ (18 ตุลาคม) ที่ผ่านมา โดยระบุว่าสหรัฐฯ นั้นอ่อนล้าจากมาตรการล็อกดาวน์ป้องกันการแพร่ระบาด ทั้งที่เคยใช้และยังคงใช้อยู่ ซึ่งมาตรการ ณ ปัจจุบัน จะต้องไม่ไปขัดขวางการฟื้นฟูภาวะเศรษฐกิจที่ทรุดหนักตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา
“เราต้องการใช้มาตรการสาธารณสุขแบบไม่ขัดขวางการเปิดเศรษฐกิจ แต่เป็นช่องทางที่ปลอดภัยในการเปิดเศรษฐกิจ” ดร.เฟาชี กล่าว
สำหรับความเป็นไปได้ที่รัฐบาลสหรัฐฯ จะกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศอีกครั้งนั้น ดร.เฟาซี ชี้ว่าวิกฤตแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้นจะต้องย่ำแย่มากจริงๆ จึงจะทำให้เขาสนับสนุนการล็อกดาวน์ทั่วประเทศอีก
ขณะที่เขามองว่าสถานการณ์ ณ ตอนนี้ยังไม่ปลอดภัยมากพอ ที่จะพูดได้ว่าสหรัฐฯ นั้นกำลังอยู่บนเส้นทางที่จะรอดพ้นจากวิกฤตโควิด-19
“เมื่อคุณมีผู้เสียชีวิตนับล้านและผู้ติดเชื้อกว่า 30 ล้านคนทั่วโลก คุณไม่สามารถพูดได้หรอกว่าเราอยู่บนหนทางที่จะออกจากวิกฤตนี้ ดังนั้น พูดตรงๆ ผมไม่รู้ว่าเราอยู่ตรงไหน มันไม่สามารถบอกได้” ดร.เฟาชี กล่าว
ปัจจุบัน สหรัฐฯ มียอดผู้ติดโควิด-19 รายใหม่ เพิ่มเฉลี่ยวันละกว่า 55,000 คน ซึ่งเพิ่มจากเดือนกันยายนที่ผ่านมามากกว่า 60% ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมตอนนี้ สูงกว่า 8.3 ล้านคน และเสียชีวิตกว่า 220,000 คน
ทั้งนี้ ดร.เฟาชี ยังกล่าวถึงการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ติดเชื้อโควิด-19 โดยบอกว่าเขาไม่ประหลาดใจเลย เพราะเขาเคยกังวลว่าทรัมป์จะติดเชื้อ ตอนที่เห็นทรัมป์อยู่ในสถานการณ์ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยฝูงชน และแทบไม่มีใครสวมหน้ากากอนามัยหรือรักษาระยะห่าง ซึ่งเมื่อเขาเห็นภาพนั้นทางทีวี ก็ถึงกับร้องอุทานออกมาว่าพระเจ้าช่วย และเชื่อว่านั่นจะต้องเป็นปัญหาอย่างแน่นอน และแน่นอน เหตุการณ์นั้นก็กลายเป็นเหตการณ์ Superspreader ซึ่งเสี่ยงที่จะมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก
นอกจากนี้ เขายังตอบคำถามเรื่องการถูกทำเนียบขาวควบคุมการออกสื่อ โดยบอกตรงๆ ว่าไม่ได้รับอนุญาตให้ไปออกหลายรายการที่เชิญเขาไปพูดคุยเรื่องวิกฤตโควิด-19
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: