เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ เปิดเผยกับ CNN ว่า อิหร่านยิงขีปนาวุธโจมตีโดรนของสหรัฐฯ ก่อนที่หลายชั่วโมงถัดมาจะโจมตีเรือบรรทุกน้ำมัน 2 ลำ กลางอ่าวโอมาน ใกล้กับช่องแคบฮอร์มุซ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (13 มิ.ย.)
อากาศยานไร้นักบินแบบ MQ-9 ของสหรัฐฯ กำลังบินตรวจการณ์อยู่ในน่านฟ้าบริเวณดังกล่าว และตรวจพบเรือของอิหร่านหลายลำแล่นอยู่ใกล้กับเรือบรรทุกน้ำมัน Front Altair ของนอร์เวย์ และเรือ Kokuka Courageous ของญี่ปุ่น จากนั้นอิหร่านได้ล็อกเป้าโจมตีโดรนด้วยขีปนาวุธแบบพื้นสู่อากาศ ทว่า อิหร่านยิงพลาดเป้า ไม่ถูกโดรนของสหรัฐฯ
เมื่อวานนี้ (14 มิ.ย.) กองบัญชาการกองทัพสหรัฐฯ ได้เปิดหลักฐานเป็นภาพวิดีโอที่แสดงให้เห็นว่า ทหารเรือของอิหร่านพยายามนำทุ่นระเบิดที่ยังไม่ระเบิดออกจากเรือ Kokuka Courageous ซึ่งเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เชื่อว่า เป็นการปกปิดหลักฐาน หลังจากที่มีรายงานการระเบิดที่เรือ 2 ลำ อย่างน้อย 3 ครั้ง
อย่างไรก็ตาม อิหร่านได้ออกมายืนกรานว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมยืนยันว่า พวกเขาได้ส่งเรือไปให้ความช่วยเหลือลูกเรือจำนวน 44 คน หลังเรือทั้งสองลำซึ่งบรรทุกวัตถุไวไฟเกิดไฟลุกไหม้กลางทะเล
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เผยอีกว่า หลายวันก่อนหน้าเหตุการณ์โจมตีเรือขนส่งน้ำมัน โดรนสหรัฐฯ ลำหนึ่งถูกยิงร่วงลงทะเลแดง ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นขีปนาวุธของอิหร่านที่ยิงจากฝ่ายกลุ่มฮูตี พันธมิตรของอิหร่านในเยเมน
ด้าน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ปักใจเชื่อว่า อิหร่านมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์โจมตีเรือบรรทุกน้ำมัน
“อิหร่านเป็นคนลงมือ และคุณก็รู้ว่าพวกเขาทำเพราะคุณเห็นเรือ” ทรัมป์กล่าวโดยอ้างถึงภาพถ่ายและวิดีโอที่เพนตากอนหรือกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เผยแพร่ก่อนหน้านี้
ขณะที่สหราชอาณาจักรออกแถลงการณ์แสดงความเชื่อมั่นว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นฝีมือของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (IRGC)
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: