เจ้าหน้าที่การทูตชาวอเมริกันเดินทางออกจากสถานกงสุลสหรัฐฯ ในนครเฉิงตู มณฑลเสฉวน ทางตะวันตกของจีนแล้ว หลังผ่านพ้นกำหนดเส้นตายของทางการจีนที่สั่งให้ปิดสถานกงสุลสหรัฐฯ ภายในเวลา 72 ชั่วโมง
การสั่งปิดสถานกงสุลสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้น เป็นการตอบโต้ของรัฐบาลจีน หลังจากที่สหรัฐฯ สั่งให้จีนปิดสถานกงสุลในเมืองฮุสตัน รัฐเท็กซัส เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยให้เวลาภายใน 72 ชั่วโมงเช่นกัน โดยสหรัฐฯ ให้เหตุผลการสั่งปิดว่าเป็นเพราะสถานกงสุลจีนถูกใช้เป็นสถานที่เพื่อแอบสอดส่องข้อมูลด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ ซึ่ง ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า การตัดสินใจมีขึ้นเนื่องจากปักกิ่งกำลังขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของชาวอเมริกัน
ด้านสื่อท้องถิ่นของทางการจีนเผยแพร่ภาพรถบรรทุกที่กำลังขนย้ายสิ่งของเดินทางออกจากสถานกงสุลสหรัฐฯ ในเฉิงตูเมื่อวานนี้ (26 กรกฎาคม) พร้อมทั้งภาพเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กำลังถอดป้ายสถานกงสุลออกจากอาคารก่อนถึงกำหนดเส้นตาย และมีการปลดธงชาติสหรัฐฯ ลงจากเสาช่วงเช้าวันนี้ (27 กรกฎาคม)
ขณะที่ด้านนอกสถานกงสุล มีกำลังตำรวจจีนหลายสิบนายเฝ้าควบคุมความเรียบร้อย ในช่วงการขนย้ายสิ่งของออกจากสถานกงสุล ท่ามกลางกลุ่มชาวบ้านที่ไปมุงดูและชูธงชาติจีน พร้อมตะโกนโห่ร้องต่อต้านสหรัฐฯ เมื่อรถบัสคันหนึ่งที่คาดว่าบรรทุกเจ้าหน้าที่การทูตชาวอเมริกันเดินทางออกจากสถานกงสุล
สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นการตอบโต้ของประชาชนชาวจีน โดยในช่วงที่คณะนักการทูตจีน เดินทางออกจากสถานกงสุลในฮุสตันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ถูกกลุ่มผู้ประท้วงชาวอเมริกันหัวเราะเยาะและขับไล่เช่นกัน
ทางด้านกระทรวงการต่างประเทศจีนเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนได้เข้ายึดพื้นที่สถานกงสุลสหรัฐฯ แล้ว หลังผ่านพ้นกำหนดเส้นตายดังกล่าว
สำหรับสถานกงสุลสหรัฐฯ ในเฉิงตูนั้นตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1985 ทำหน้าที่ดูแลรักษาผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในพื้นที่ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีนที่มีขนาดกว้างใหญ่ ไปจนถึงเขตปกครองตนเองทิเบต ซึ่งเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ในสถานกงสุลกว่า 200 คน เป็นชาวจีนในพื้นที่
ขณะที่นครเฉิงตู ซึ่งมีการเติบโตอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมและภาคบริการ ถือเป็นอีกตลาดเป้าหมายสำคัญของสหรัฐฯ ในการส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร รถยนต์ และเครื่องจักร
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: