ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดของสหรัฐฯ หรือ CDC ประกาศปรับเปลี่ยนข้อแนะนำในการแยกกักตัวสำหรับชาวอเมริกันที่ติดเชื้อโควิดแบบไม่มีอาการ โดยลดระยะเวลาแยกกักตัวลงจาก 10 วันเหลือ 5 วัน แต่หลังจากนั้น ยังคงต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยในระหว่างใช้ชีวิตประจำวันร่วมกับผู้อื่นต่ออีก 5 วัน
โดย CDC ระบุว่า การปรับข้อแนะนำดังกล่าว เป็นไปตามข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ หลังพบว่าการแพร่เชื้อส่วนใหญ่นั้นเกิดขึ้นในช่วงต้นของการติดเชื้อ ซึ่งข้อแนะนำใหม่นี้ ไม่ใช่การบังคับตามกฎหมาย
สำหรับการแยกกักตัว หรือ Isolation นั้น ตามคำนิยามของ CDC คือการแยกกักตัวผู้ติดเชื้อออกจากประชาชนที่ไม่ติดเชื้อ ในขณะที่การกักกันหรือ Quarantine เป็นการจำกัดความเคลื่อนไหวของผู้ติดเชื้อเพื่อดูว่ามีอาการป่วยหรือไม่
ซึ่งนอกจากนี้ CDC ยังแนะนำให้ใช้มาตรการกักกัน 5 วัน ตามด้วยการสวมหน้ากากอนามัยอย่างเข้มงวดอีก 5 วัน สำหรับผู้ติดเชื้อที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน หรือฉีดวัคซีนแบบ mRNA โดสที่สองมาแล้วเกิน 6 เดือน หรือฉีดวัคซีน Johnson & Johnson เกิน 2 เดือน และยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น ส่วนผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้ว ไม่จำเป็นต้องกักตัวหากติดเชื้อ แต่ควรสวมหน้ากากอนามัยเป็นเวลา 10 วัน
“การอัปเดตข้อแนะนำสำหรับการแยกกักและกักกันของ CDC เป็นการสร้างสมดุลในสิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับการแพร่กระจายของไวรัส และการป้องกันที่ได้รับจากการฉีดวัคซีนและวัคซีนเข็มกระตุ้น” ดร.โรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการ CDC ระบุในแถลงการณ์ พร้อมทั้งชี้ว่า การปรับเปลี่ยนข้อแนะนำเหล่านี้เป็นไปเพื่อ “ให้แน่ใจว่าประชาชนสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปลอดภัย
“การป้องกันเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของเรา การฉีดวัคซีน ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น การสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่สาธารณะ ในร่ม ในบริเวณที่เป็นจุดเสี่ยง และมีการระบาดจำนวนมากในชุมชน และทำการตรวจเชื้อก่อนรวมตัวกัน”
ทั้งนี้ การปรับลดระยะเวลากักตัวดังกล่าว มีขึ้นท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอไมครอนที่ทวีความรุนแรง และกลายเป็นโควิดสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดในสหรัฐฯ โดยมีผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มสูงตั้งแต่ 190,000-280,000 คนในช่วง 7 วันที่ผ่านมา
ซึ่งประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตือนว่าโรงพยาบาลต่างๆ อาจประสบภาวะผู้ป่วยล้น และเรียกร้องให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก เนื่องจากทางการมีการเตรียมพร้อมรับมือการแพร่ระบาดที่ดีกว่าเดิม แต่ยอมรับว่าจำเป็นต้องมีการดำเนินการเพื่อให้การตรวจเชื้อมีความพร้อมมากขึ้น ซึ่งรัฐบาลมีแผนที่จะพัฒนาการผลิตชุดตรวจแบบรวดเร็วให้มากขึ้น และทำให้ประชาชนสามารถใช้ Google ตรวจสอบจุดตรวจเชื้อได้ง่ายขึ้น
ภาพ: Photo by David Dee Delgado/Getty Images
อ้างอิง: