×

สหรัฐฯ เล็งขึ้นบัญชีดำ ผู้ผลิตชิปรายใหญ่สุดของจีน ท่ามกลางสงครามเทคโนโลยีที่ตึงเครียด

โดย THE STANDARD TEAM
06.09.2020
  • LOADING...

โฆษกกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพิจารณาที่จะบังคับใช้ข้อจำกัดการส่งออกกับบริษัท Semiconductor Manufacturing International Corporation (SMIC) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของจีน 

 

โดยกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ อยู่ในระหว่างหารือว่าจะเพิ่มบริษัท SMIC เข้าในบัญชีดำของกระทรวงพาณิชย์หรือไม่ โดยบริษัทที่ติดแบล็กลิสต์ดังกล่าวจะถูกจำกัดการเข้าถึงสินค้าที่ผลิตในสหรัฐฯ หรือแม้แต่สินค้าที่ผลิตในต่างประเทศแต่ใช้เทคโนโลยีของสหรัฐฯ 

 

“ทางกระทรวงกำลังประสานงานร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ในการประเมินข้อมูลที่มีอยู่เพื่อตัดสินว่าการดำเนินการของ SMIC เป็นเหตุผลอันสมควรให้เพิ่มบริษัทเข้าในรายชื่อของกระทรวงพาณิชย์ (Department of Commerce’s Entity List) หรือไม่” โฆษกเพนตากอนกล่าว ซึ่งการขึ้นบัญชีดำดังกล่าวจะทำให้การส่งออกสินค้าและเทคโนโลยีทั้งหมดให้กับ SMIC นั้นจะต้องผ่านการพิจารณาตรวจสอบอย่างครอบคลุม 

 

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของคณะทำงานทรัมป์เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามเพื่อสร้างแรงกดดันบริษัทเทคโนโลยีของจีน และทำให้การต่อสู้ด้านเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่ร้อนแรงอยู่แล้วนั้น ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น

 

SMIC ถือเป็นผู้เล่นรายสำคัญของจีน ภายใต้เป้าหมายของจีนที่ต้องการสนับสนุนอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ภายในประเทศ โดยมีชนวนเหตุมาจากสงครามการค้ากับสหรัฐฯ

 

ปัจจุบันมีบริษัทของจีนมากกว่า 275 แห่งที่ติดบัญชีดำของสหรัฐฯ จากการเปิดเผยของ Reuters ซึ่งเป็นสื่อรายแรกที่รายงานว่า SMIC อาจถูกขึ้นบัญชีดำ โดยการควบคุมการส่งออกสินค้าและเทคโนโลยีให้กับ SMIC อาจส่งผลกระทบต่อบริษัทของสหรัฐฯ ที่ขายเทคโนโลยีการผลิตชิปให้กับบรรดาผู้ผลิตชิปของจีน

 

ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เมื่อไม่นานมานี้ สหรัฐฯ ได้ประกาศว่าจะเพิ่มการบังคับใช้ข้อจำกัดกับ Huawei Technologies ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีการสื่อสารยักษ์ใหญ่ของจีน เพื่อสกัดบริษัท Huawei ในการเข้าถึงชิปที่มีการจำหน่ายอยู่ตามท้องตลาดในปัจจุบัน 

 

ข้อจำกัดดังกล่าวจะส่งผลให้ Huawei ไม่สามารถเข้าถึงเซมิคอนดักเตอร์ หากไม่ได้รับใบอนุญาตพิเศษ ซึ่ง SMIC เป็นหนึ่งในผู้ผลิตชิปป้อนให้กับ Huawei

 

ขณะเดียวกัน ทางการสหรัฐฯ ยังผลักดันให้รัฐบาลประเทศอื่นๆ ทั่วโลกใช้ข้อจำกัดกับ Huawei เช่นกัน โดยอ้างว่าบริษัทสอดแนมข้อมูลให้กับรัฐบาลจีน ซึ่ง Huawei ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว 

 

นอกจากนี้ เมื่อเดือนที่แล้ว คณะทำงานของทรัมป์ยังได้ออกคำสั่งบริหาร (Executive Order) เพื่อห้ามการทำธุรกิจกับบริษัท ByteDance ของจีน ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแอปฯ ชื่อดังอย่าง TikTok รวมทั้งบีบให้บริษัท ByteDance ต้องขายหรือเลิกกิจการ TikTok ในสหรัฐฯ ด้วย  

 

ภาพ: ShutterStock

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X