โฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการเจรจาข้อตกลงทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่กรุงลอนดอนในวันที่สอง โดยระบุว่า ทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลงกรอบการทำงานเพื่อคลี่คลายความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างกัน และคาดหวังว่ากรอบการทำงานนี้จะสามารถแก้ไขการจำกัดการส่งออกแร่หายาก (Rare Earth) และแม่เหล็กของจีน
การเจรจารอบล่าสุดนี้เกิดขึ้นหลังจากที่มีการเจรจาที่นครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงลดภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกันเป็นเวลา 90 วัน
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศระหว่างทั้งสองฝ่ายเริ่มแย่ลงอีกครั้งจากปัญหาสำคัญสองประการ ได้แก่ การควบคุมการส่งออกแร่หายากของจีน และการจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ที่มาจากสหรัฐฯ
ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ และประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ได้โทรศัพท์พูดคุยกันเมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลช่วยคลายความตึงเครียดที่เกิดขึ้นและนำมาซึ่งการเจรจารอบนี้
ลุตนิกกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า กรอบการทำงานดังกล่าวถือเป็น ‘เนื้อหาที่สำคัญ’ ของข้อตกลงลดภาษี โดยทั้งสองฝ่ายจะนำดีลกรอบการทำงานที่ได้ไปเสนอต่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และ สีจิ้นผิง เพื่ออนุมัติการดำเนินการ
“เราได้บรรลุกรอบการทำงานเพื่อนำฉันทมติที่เจนีวาและการเรียกร้องระหว่างประธานาธิบดีทั้งสองฝ่ายไปปฏิบัติ แนวคิดคือ เราจะกลับไปคุยกับประธานาธิบดีทรัมป์อีกครั้งและให้แน่ใจว่าเขาเห็นชอบด้วย ส่วนพวกเขาจะกลับไปคุยกับประธานาธิบดีสีเพื่อให้แน่ใจว่าเขาเห็นชอบด้วย และหากได้รับการอนุมัติ เราจะนำกรอบการทำงานดังกล่าวไปปฏิบัติ” ลุตนิกกล่าว
ขณะที่หลี่เฉิงกัง รองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของจีน ให้สัมภาษณ์สื่อว่า “ทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงกันในหลักการเกี่ยวกับกรอบการดำเนินการตามฉันทมติที่ผู้นำของทั้งสองประเทศตกลงกันในระหว่างการพูดคุยทางโทรศัพท์ และในระหว่างการเจรจาที่เจนีวาเมื่อเดือนที่แล้ว”
ภาพ: United States Treasury / Handout via Reuters
อ้างอิง: