ไนออล เฟอร์กูสัน นักวิชาการอาวุโสจากสถาบันฮูเวอร์ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ในสหรัฐฯ วิเคราะห์ว่าเวลานี้ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งเป็นสองประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกกำลังอยู่ในระยะเริ่มต้นของสงครามเย็นครั้งที่ 2
ในระหว่างให้สัมภาษณ์กับ CNBC ในงานประชุมเสวนาเศรษฐกิจระหว่างประเทศ Ambrosetti Forum ที่ประเทศอิตาลี เฟอร์กูสันแสดงความเห็นว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อยู่ในตำแหน่งที่ไม่สามารถป้องกันความเสียหายที่เกิดจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนได้ เนื่องจากความขัดแย้งลุกลามกินระยะเวลานานจนไม่ใช่แค่เรื่องการค้าอีกต่อไป แต่ครอบคลุมในหลายมิติตั้งแต่ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ไปจนถึงเรื่องของเทคโนโลยี
เฟอร์กูสันกล่าวว่า “ข่าวดีคือผมไม่คิดว่าพวกเขาจะเปิดศึกสงครามเต็มรูปแบบระหว่างกันในทะเลจีนใต้หรือที่อื่นๆ แต่ผมคิดว่าพวกเขากำลังอยู่ในสงครามเย็น
“และผมก็ไม่คิดว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะมีอำนาจยุติความขัดแย้งด้วยการทำข้อตกลงอีกต่อไป ซึ่งผมคิดว่าเขาอาจตั้งใจทำเช่นนั้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งก่อนถึงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีหน้า”
เฟอร์กูสันมองว่าปัญหาสำหรับทรัมป์คือเขาเป็นคนจุดชนวนสงครามเย็นด้วยสงครามการค้า แต่เขาไม่สามารถยุติมันได้ง่ายๆ เพราะความตึงเครียดได้ขยายขอบเขตไปยังมิติอื่นๆ และเมื่อกลายเป็นปัญหาทางเทคโนโลยี ทรัมป์ก็ยิ่งไม่สามารถควบคุมได้
ทั้งนี้สหรัฐฯ และจีนตกลงกันที่จะจัดการเจรจาระดับรัฐมนตรีที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ช่วงต้นเดือนตุลาคม โดยสื่อจีนแสดงความเห็นว่าการเจรจาครั้งนี้อาจแตกต่างออกไป และมีโอกาสสำเร็จมากกว่าครั้งก่อนๆ ซึ่งต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่าการเจรจาระหว่างสองฝ่ายจะมีความคืบหน้าครั้งใหญ่ตามที่มีกระแสคาดการณ์หรือไม่
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: