จากกรณีที่ผลการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับจีน เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ที่ผ่านมา นครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์ สามารถบรรลุข้อตกลงที่จะลดภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกันชั่วคราวเป็นเวลา 90 วัน ในศึกสงครามภาษี (Tariff War)โดยทางการจีนจะลดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เหลือ 10% จากเดิม 125% ส่วนสหรัฐฯ จะลดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเหลือ 30% จากเดิม 145%
โดย ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) และกรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ โพสต์ข้อความให้ความเห็นผ่าน Facebook ระบุว่า ผลเจรจาช่วงสุดสัปดาห์ที่เจนีวาระหว่างสหรัฐและจีนต้องบอกว่า ‘เกินคาด’ สำหรับทุกคน Almost Total Reset กลับไปที่วันที่ 2 เมษายน ปีนี้
โดยขณะนี้ ผลจากวันดังกล่าวเป็นต้นมาเหลือ Tariffs ข้างละ 10% สำหรับสหรัฐ 10% Minimum สำหรับ Reciprocal Tariffs และบวกกับที่คิดก่อนหน้าสำหรับยาเสพติดอีก 20% เป็น 30% ส่วนจีน 10% สำหรับ Reciprocal Tariffs เช่นกัน ถือว่าไม่เสียศักดิ์ศรี
หลังจากนี้ 90 วัน ทั้งสองฝ่ายก็จะคุยกัน โดยไม่ต้องโต้ไปโต้มา แต่จะสำเร็จแค่ไหน คงต้องไปดูกันต่อไป เพราะเป้าหมายลดการขาดดุลการค้ากับจีน และเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของจีนไม่ใช่ง่าย
โดยสหรัฐมีความปรารถนาที่จะเปิดตลาดจีนในด้านต่างๆ ที่เคยถูกกีดกันมานาน
ก็คงต้องวัดใจว่าจีน จะยอมให้หรือไม่ แต่อย่างน้อย จากบทเรียน 1 เดือนครึ่งที่ผ่านมา ซึ่งสองฝ่ายคงเรียนรู้แล้วว่า “ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด”
ทั้งนี้ สหรัฐฯ ต้องพึ่งพาสินค้าจีน จีนก็ต้องพึ่งพาตลาดอเมริกา เสียงโอดครวญจากโรงงานในจีนที่ต้องปิดงาน เลิกจ้าง ไม่รู้จะทำอย่างไรกับสินค้า เสียงจากผู้ประกอบการและผู้ผลิตในสหรัฐฯ คงเป็นเครื่องช่วยให้การเจรจาเดินไปได้
สำหรับการมาแสดงอำนาจ ศักดิ์ศรี ใส่กันนำมาซึ่งความเสียหาย บอบช้ำ ของทั้งสองฝ่ายสำหรับนักธุรกิจในประเทศต่างๆ คงต้องมองว่า 90 วัน คือ ช่วงให้ทุกคนหายใจโดยผู้ประกอบการจีนจะเร่งพยายามหาตลาดใหม่รองรับไว้กรณีที่ 90 วันแล้วไม่สำเร็จ
ส่วนผู้ประกอบการสหรัฐ ก็ต้องหา Suppliers ใหม่เตรียมไว้เช่นกัน รวมถึงเร่งนำเข้าเพราะสุดท้ายแล้ว ไม่มีใครรู้ว่า จะจบอย่างไร ซึ่ง 90 วันนี้ หากใช้ให้ดีก็จะมีค่ามากส่วนไทย ก็คงได้รับอานิสงส์ เช่นกัน China Flooding จากสินค้าจีน คงจะเบาลงเป็นโอกาสให้เราได้คุยกับผู้ประกอบการสหรัฐฯ
รวมทั้งพร้อมเตรียมรับมือหาตลาดใหม่ หาทางออกไว้เพราะเราเองก็ยังต้องลุ้นว่าเมื่อครบ 90 วัน Tariffs เราจะอยู่ตรงไหนเทียบกับคู่แข่งอย่าลืมใช้ช่วงเวลานี้ให้ดีเพราะรอบที่แล้ว กระทันหันไป อัตราสูงเกินคาดไปทุกคนไม่มีโอกาสเตรียมการแต่รอบนี้ เรามีเวลาพอให้คิด ว่าจะทำอะไรจะผ่อนหนักเป็นเบาอย่างไร
