×

สหรัฐฯ เสี่ยง ‘สมองไหล’ ครั้งใหญ่! นโยบายทรัมป์บีบคนเก่ง เอเชียเปิดศึกชิงตัวนักศึกษาจากฮาร์วาร์ด

29.05.2025
  • LOADING...

ทันทีที่รัฐบาลของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ พยายาม ‘จำกัดการรับนักศึกษาต่างชาติ’ ของ Harvard University และส่งสัญญาณที่เข้มงวดขึ้นต่อผู้มีพรสวรรค์จากต่างประเทศ ประเทศในเอเชียไม่รอช้าที่จะ ‘เร่งดึงดูด’ นักศึกษาและบุคลากรผู้มากความสามารถเหล่านี้ที่อาจไม่สามารถเรียนหรือทำงานในสหรัฐฯ ได้อีกต่อไป หรือไม่เต็มใจที่จะอยู่

 

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ทรัมป์พิจารณาจะโอนเงินทุนวิจัยของ Harvard กว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับงานวิจัยทางการแพทย์ วิศวกรรม และวิทยาศาสตร์) ไปให้กับโรงเรียนด้านสายอาชีพ โดยเรียกเป็นการลงทุนที่ ‘คุ้มค่า’ สำหรับประเทศ

 

นอกจากนี้รัฐบาลทรัมป์ยังเร่งดำเนินการ ‘ยุติสิทธิในการทำงาน’ ของนักศึกษาต่างชาติ (F-1) หลังสำเร็จการศึกษาผ่านโครงการ OPT (Optional Practical Training) ซึ่งหากเป็นไปตามแผน โจเซฟ เอ็ดโลว์ ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้อำนวยการ USCIS จะยุติการอนุญาตให้ทำงานหลังเรียนจบ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า สหรัฐฯ ได้สั่งการให้สถานทูต ‘หยุดนัดสัมภาษณ์’ วีซ่านักศึกษาใหม่ทันที

 

ผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาการและนโยบายมองว่า การโจมตี Harvard ครั้งนี้เป็น ‘การโจมตีที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน’ ที่อาจสร้าง ‘ความเสียหาย’ ต่อระบบอุดมศึกษาของสหรัฐฯ และความสามารถในการดึงดูด ‘บุคลากรคุณภาพ’ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม

 

“สหรัฐฯ เคยเป็น ‘แม่เหล็กดึงดูดบุคลากร’ มาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง และกำลังจะสูญเสียบุคลากรคุณภาพจำนวนมาก” ไบรอัน ชมิดท์ ศิษย์เก่า Harvard และนักฟิสิกส์ดาราศาสตร์ กล่าว และย้ำว่าการกระทำนี้จะ “จำกัดความสามารถของสหรัฐฯ ในการเป็นชาติผู้นำด้านนวัตกรรมของโลก”

 

ผลกระทบนี้ยังขยายวงกว้างไปสู่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีของสหรัฐฯ เจสัน คอร์โซ ศาสตราจารย์ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์จาก University of Michigan ชี้ว่าการกระทำเหล่านี้เป็นการ ‘โจมตีอุตสาหกรรมสหรัฐฯ ทั้งหมด’ และตั้งคำถามว่าบริษัทเทคโนโลยีจะจ้างใคร และสหรัฐฯ จะรักษาความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมได้อย่างไร

 

ในปีการศึกษา 2023-2024 นักศึกษาเอเชียคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 70% ของนักศึกษาต่างชาติทั้งหมดในสหรัฐฯ โดย อินเดีย และ จีน เป็นประเทศต้นทางอันดับต้นๆ คิดเป็น 29.4% และ 24.6% ตามลำดับ ท่ามกลางบรรยากาศที่ชาวเอเชียจำนวนมากในสหรัฐฯ เริ่มหวาดกลัวต่อ ‘อารมณ์ต่อต้านคนต่างชาติ’ ที่เพิ่มขึ้นและเส้นทางที่ยากลำบากในการขอวีซ่าหรือถิ่นที่อยู่ถาวร

 

แกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐ California แสดงความกังวลต่อผลกระทบที่น่าหวาดหวั่น(Chilling Effect) จากวาทศิลป์ของทรัมป์เกี่ยวกับการอพยพผิดกฎหมาย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของ California ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทเทคโนโลยีจำนวนมากที่พึ่งพาบุคลากรทักษะสูงจากต่างชาติ

 

“การย้ายถิ่นฐานเป็นรากฐานที่สำคัญของจิตวิญญาณของผู้ประกอบการอย่างมาก และส่วนใหญ่มาจากระบบมหาวิทยาลัยของเรา” นิวซัมกล่าว พร้อมชี้ว่าระบบนิเวศและสูตรสำเร็จของความสำเร็จนี้กำลังถูกท้าทาย

 

การสูญเสียของสหรัฐฯ อาจกลายเป็น ‘โอกาส’ ของประเทศในเอเชียอย่างแท้จริง จอห์น ลี ผู้บริหารสูงสุดของ Hong Kong ได้ยืนยันจุดยืนถึงการเปิดประตูต้อนรับ โดยกล่าวว่า Hong Kong จะ “ยินดีต้อนรับนักศึกษาทุกคนที่ถูกเลือกปฏิบัติจากนโยบายของสหรัฐฯ”

 

Hong Kong University of Science and Technology (HKUST) ได้เสนอ ‘รับเข้าเรียนโดยไม่มีเงื่อนไข’ ให้กับนักศึกษา Harvard ที่ได้รับผลกระทบ พร้อมกระบวนการรับเข้าที่รวดเร็วและการสนับสนุนทางวิชาการ ด้าน University of Tokyo ของญี่ปุ่น ก็กำลังพิจารณาที่จะ ‘รับนักศึกษา’ จาก Harvard เป็นการชั่วคราวเช่นกัน

 

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็พร้อมรับประโยชน์เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อินโดนีเซีย และ เวียดนาม ที่กำลังมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยีระดับโลก ทำให้ความต้องการบุคลากรทักษะสูงเพิ่มขึ้น
ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของกองทุน Danantara Indonesia กล่าวว่า “เรามองว่าเป็นโอกาสอย่างชัดเจน สำหรับเราแล้ว เรายินดีที่จะให้ผู้คนมาที่อินโดนีเซีย”

 

ส่วนเวียดนามกำลังเปลี่ยนแปลงกฎหมายสัญชาติเพื่อให้ชาวเวียดนามในต่างประเทศสามารถพำนักในประเทศได้โดยยังคงถือสัญชาติอื่น นอกจากนี้ยังพิจารณาออกวีซ่าระยะยาว, ยกเว้นวีซ่า, ลดหย่อนภาษี และสิ่งจูงใจอื่นๆ เพื่อดึงดูดนักลงทุน, นักวิทยาศาสตร์ และบุคลากร ‘ผู้มากความสามารถ’ ให้เข้ามาทำงานและลงทุนในเวียดนาม

 

การเปลี่ยนแปลงนโยบายของสหรัฐฯ กำลังนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ใน ‘การไหลเวียนของบุคลากร’ ระดับโลก ซึ่งเป็นความท้าทายที่สำคัญสำหรับสหรัฐฯ แต่ก็เป็น ‘โอกาสทอง’ สำหรับประเทศในเอเชียที่กำลังทะเยอทะยาน ที่จะดึงดูดผู้มีพรสวรรค์เหล่านี้เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของตนเอง

 

ภาพ: Robert Spencer / Getty Images

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising