รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ขึ้นบัญชีดำบริษัทและสถาบันวิจัยสัญชาติจีนรวมอีก 34 แห่ง ฐานละเมิดสิทธิมนุษยชนชนกลุ่มน้อยในประเทศอย่างรุนแรง พร้อมกล่าวหาว่าทางการจีนกำลังพยายามพัฒนาเทคโนโลยีที่จะเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของสหรัฐฯ เช่น สารพัดอาวุธควบคุมสมอง เป็นต้น
สถานีโทรทัศน์ CNBC รายงานว่า กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้ลุกขึ้นมากล่าวหาสถาบันวิชาการจีนด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ และอีก 11 สถาบันวิจัยด้านเทคโนโลยีชีวภาพของจีน ซึ่งกำลังเดินหน้าศึกษาสิ่งที่จะเป็นประโยชน์ต่อการใช้งานของกองทัพในด้านต่างๆ รวมถึงการควบคุมสมอง
ทั้งนี้ มาตรการลงโทษใหม่นี้จะทำให้บริษัทอเมริกันไม่สามารถขายสินค้าแก่สถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหารของจีน และสถาบันวิจัยในเครือ 11 แห่ง ที่พัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพได้
รัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า จีนใช้เทคโนโลยีชีวภาพเพื่อกดขี่ชาวอุยกูร์ โดยจีนปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวและโต้กลับว่า ‘มาตรการความมั่นคง’ ใดๆ ก็ตามที่ใช้กับชาวอุยกูร์นั้น เป็นไปเพื่อป้องกันการก่อการร้าย
จีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ระบุในแถลงการณ์ว่า จีนใช้เทคโนโลยีดังกล่าวเพื่อพยายามควบคุมประชาชนของตนเอง และใช้กดขี่กลุ่มชาติพันธุ์และกลุ่มศาสนาที่เป็นชนกลุ่มน้อย สหรัฐฯ จึงไม่สามารถอนุญาตให้สินค้า เทคโนโลยี และซอฟต์แวร์ของสหรัฐฯ ที่สนับสนุนวิทยาศาสตร์การแพทย์และนวัตกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ ถูกนำไปใช้ในทางที่ขัดต่อความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ
สำหรับท่าทีในครั้งนี้ของสหรัฐฯ มีขึ้นไม่นานหลังจากที่มีการประกาศคว่ำบาตรการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวในกรุงปักกิ่ง เนื่องจากมี ‘การละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงและการทารุณในเขตซินเจียง’
ทำเนียบขาวยังระบุด้วยว่า สหรัฐฯ สนับสนุนกฎหมายที่เสนอโดยพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกัน ที่จะห้ามการนำเข้าสินค้าที่ผลิตในเขตซินเจียงจนกว่าจีนจะพิสูจน์ได้ว่า สินค้าดังกล่าวไม่ได้ผลิตโดยแรงงานบังคับ
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP