การเจรจาระงับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนต้องเผชิญกับอุปสรรคอีกครั้ง เมื่อรัฐบาลสหรัฐฯ กล่าวหาจีนว่าพยายามปรับเปลี่ยนข้อตกลงในขณะที่การเจรจาเข้าใกล้ขั้นตอนสุดท้าย ส่งผลให้โอกาสที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะประกาศมาตรการภาษีกับจีนเพิ่มเติมมีสูงขึ้น
โรเบิร์ต ไลต์ทิเซอร์ ผู้แทนการค้าระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า จีนได้ปรับเปลี่ยนท่าทีที่มีต่อข้อตกลงเดิม อย่างไรก็ตาม เขายืนยันว่าข้อตกลงระงับกำแพงภาษียังคงเป็นไปได้ โดยคณะผู้แทนของสองฝ่ายมีกำหนดจะเจรจาร่วมกันอีกครั้งที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในวันพฤหัสบดีนี้ (9 พ.ค.)
ไลต์ทิเซอร์เผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้วจีนพยายามแก้ไขข้อความสาระสำคัญในข้อตกลงระหว่างสองประเทศ ซึ่งถือเป็นการทำผิดสัญญา และเป็นเรื่องที่เรายอมรับไม่ได้ เพราะการเจรจาใกล้ที่จะได้ข้อสรุปแล้ว
เมื่อวันอาทิตย์ (5 พ.ค.) ทรัมป์ได้ประกาศเตือนผ่านทางทวิตเตอร์ว่า เขาจะขยายกำแพงภาษีเพิ่มกับสินค้าจีนมูลค่า 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐในวันศุกร์นี้ (10 พ.ค.) และจะประกาศมาตรการภาษีใหม่ๆ เพิ่มเติมด้วย โดยแบ่งเป็นเก็บภาษีสินค้านำเข้าบางชนิดจากอัตรา 10% เป็น 25% ส่วนสินค้าที่ไม่เคยถูกเก็บภาษีมาก่อนรวมมูลค่า 3.25 แสนล้านเหรียญสหรัฐก็จะถูกตั้งกำแพงภาษี 25% ด้วยเช่นกัน
ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ระบุว่า “ณ ตอนนี้เรายังไม่ล้มโต๊ะเจรจา แต่เวลานี้ สหรัฐฯ พร้อมที่จะบังคับใช้มาตรการภาษีกับจีนในวันศุกร์นี้”
ความเป็นไปได้ที่สงครามการค้าจะปะทุขึ้นอีกครั้ง ได้สร้างความตื่นตระหนกในตลาดหุ้นทั่วโลก โดยดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ตลาดหุ้นจีน ร่วงลงถึง 5.6% ในวันนี้ หลังจากที่ทรัมป์ทวีตข่มขู่ ขณะที่ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลง 471 จุด หรือเกือบ 1.8% หลังเปิดตลาด ก่อนจะดีดตัวขึ้นไปปิดในแดนลบ 0.3%
ภาพ: Getty Images
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: