กรุงเทพฯ กลายเป็นเมืองเปิดตัวครั้งสำคัญของโลก เมื่อ Upper House แบรนด์โรงแรมลักชัวรีจาก Swire Hotels เปิดตัว Branded Residences ภายใต้ชื่อ Upper House Residences Bangkok และ The Wireless Residences by Upper House สองโครงการระดับอัลตร้าลักชัวรีแบบ ‘ฟรีโฮลด์’ บนถนนวิทยุ ทำเลกลางเมืองที่หันหน้าเข้าหา ‘สวนลุมพินี’ และเชื่อมถึง ‘สวนเบญจกิติ’ โดยมี ‘ซิตี้ ไดนามิค จำกัด’ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง ซิตี้ เรียลตี้ และ สไวร์ พร็อพเพอร์ตี้ส์ เป็นผู้ดำเนินการ
แลนด์มาร์กใหม่ ‘สองสวน’ บนที่ดินฟรีโฮลด์ใจกลางกรุงเทพฯ
ที่ดินผืนนี้ถือเป็นหนึ่งในแปลงฟรีโฮลด์ที่หาได้ยากที่สุดในย่านถนนวิทยุ ซึ่งรายล้อมด้วยสถานทูต โรงแรม และพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ทังนี้ ทั้งสองโครงการตั้งเป้าก่อสร้างแล้วเสร็จ และเริ่มโอนภายในปี 2030
ทั้งนี้ Upper House Residences Bangkok สูง 52 ชั้น จำนวน 156 ยูนิต ขณะที่ The Wireless Residences by Upper House สูง 71 ชั้น จำนวน 239 ยูนิต และแลนมาร์คนี้ จะมีที่จอดรถ 100% ใต้ดิน 5 ชั้น เพื่อรักษาทัศนียภาพของถนนวิทยุ
สำหรับแผนการก่อสร้าง โครงการได้เริ่มก่อสร้างเมื่อเดือนเมษายน 2568 และผู้รับเหมาหลักจะเข้าพื้นที่ปลายปีนี้ คาดใช้เวลาก่อสร้างราว 4 ปีครึ่ง แล้วเสร็จและโอนได้ในปี 2573
โครงการนี้เป็นการผสานความเชี่ยวชาญของสามพันธมิตรหลัก คือ
- Swire Hotels ผู้อยู่เบื้องหลังโรงแรม Upper House Hong Kong ที่ติด Top 5 ของ The World’s 50 Best Hotels และได้รับกุญแจมิชลิน 2 ดอกในปี 2028
- Swire Properties ผู้พัฒนาอสังหาฯ ระดับไอคอนิกอย่าง OPUS Hong Kong และ EDEN Singapore
- City Realty Group ผู้คร่ำหวอดในตลาดอสังหาฯ พรีเมียมของไทย
เคซี อาว (ซ้ายสุด), โทบี สมิธ (คนกลาง), โทมัส วูลซี (ขวาสุด)
โทบี สมิธ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ สไวร์ โฮเทลส์ กล่าวว่า โครงการ Upper House Residences Bangkok และ The Wireless Residences by Upper House เป็นการเปิดบทใหม่อันน่าตื่นเต้นให้แบรนด์ Upper House พร้อมนำดีไซน์อันเป็นที่รู้จักทั่วโลกและความเชี่ยวชาญด้านบริการในโรงแรมลักชัวรีมาสู่โครงการที่อยู่อาศัย นอกจากนี้ การเปิดตัวโครงการสำคัญแห่งใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังตอกย้ำวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและความมุ่งมั่นในการขยายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศของเรา
เคซี อาว และโทมัส วูลซี กรรมการผู้จัดการร่วม บริษัท ซิตี้ ไดนามิค จำกัด ระบุว่า ความร่วมมือนี้สะท้อน ‘มรดกทางสถาปัตยกรรมและบริการ’ ที่จะยกระดับกรุงเทพฯ สู่การเป็นมหานครลักชัวรีในระดับโลก และกลายเป็น ‘มรดกที่อยู่อาศัยส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น’
ดีมานด์อสังหาฯ ระดับ ‘Ultra-Luxury’ ยังมี
เคซี กล่าวว่า ลูกค้าเป้าหมายของทั้งสองโครงการ คือคนไทย 60% และต่างชาติ 40% โดยมีแรงซื้อหลักจากนักสะสมอสังหาริมทรัพย์ในเอเชีย เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ และไต้หวัน ซึ่งให้ความสนใจสินทรัพย์ฟรีโฮลด์ใจกลางเมืองหลวงในระดับแลนด์มาร์ก
“เชื่อว่าตลาด Branded Residences ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเมืองศูนย์กลางอย่างกรุงเทพฯ ที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม Global Gateway City” เคซี กล่าว
สำหรับมูลค่าโครงการ เคซี กล่าวว่า มูลค่าโครงการรวมถูกคาดการณ์ไว้ว่าจะประมาณ ‘หลายหมื่นล้านบาท’ โดยราคาขายเฉลี่ยคาดว่าจะ ‘พรีเมียมกว่า’ เมื่อเทียบกับโครงการบนถนนวิทยุ ที่ซื้อขายอยู่ราว 400,000–500,000 บาท/ตร.ม. และด้วยขนาดยูนิตใหญ่สุดกว่า 800 ตร.ม. จึงคาดว่า ‘ราคาต่อยูนิต’ จะขึ้นสู่ระดับ Ultra-Luxury Segment และอาจจะได้เห็นระดับราคาที่ 1,000 ล้านบาท
ในระยะยาว โครงการทั้งสองแห่งถูกวางตัวให้เป็น แลนด์มาร์กใหม่ของเมืองประตูโลก ที่ผสานความสงบของธรรมชาติ ความลักชัวรีเหนือระดับ และแนวคิดการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน เปรียบเหมือน ‘บ้านที่เป็นพื้นที่ของคุณจริงๆ’ ตามปรัชญา Upper House = บ้านในระดับสูงสุดของประสบการณ์ชีวิต