วันนี้ (29 พฤษภาคม) พล.อ. สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เปิดเผยข้อสรุปการผ่อนปรนระยะที่ 3 พร้อมประกาศปรับเวลาเคอร์ฟิวลดลง 1 ชั่วโมง เป็นเวลา 23.00-03.00 น. โดยหนึ่งในสาระสำคัญของมาตรการดังกล่าวคือการผ่อนปรนให้กิจการ/กิจกรรมต่างๆ ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงปานกลางถึงความเสี่ยงสูงสามารถกลับมาดำเนินการได้อีกครั้ง โดยเริ่มมีผล 1 มิถุนายนนี้
โดยหลักๆ ประกอบไปด้วย
- ปรับเวลาเคอร์ฟิวลดลง 1 ชั่วโมง เป็นเวลา 23.00-03.00 น.
- เดินทางข้ามจังหวัดได้ภายใต้มาตรการที่รัฐกำหนด
- ขยายเวลาเปิดห้างสรรพสินค้าได้จนถึง 21.00 น.
- ยังห้ามดื่มสุราในร้านอาหาร แต่ให้ขายไปทานที่บ้าน
- เปิดฟิตเนสได้ทั้งหมด สนามกีฬา ได้แก่ ฟุตบอล ฟุตซอล บาสเก็ตบอล วอลเลย์บอล ลีลาศ โบว์ลิ่ง สเก็ตหรือโรลเลอร์เบลด และเจ็ตสกี ไคท์เซิร์ฟ
- เปิดโรงหนังให้นั่งคู่กันได้ แต่ต้องใส่หน้ากากอนามัย และห้ามเข้าชมเกิน 200 คนต่อรอบฉาย
- ร้านตัดผม ให้ทำสีผมได้ แต่ให้ใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง
- เปิดสปา ร้านนวด นวดฝ่าเท้า งดอบตัว อบไอน้ำแบบรวม และนวดหน้า
- เปิดคลินิกเวชกรรมเสริมความงาม สัก-เจาะผิวหนัง และเพิ่มเติมทำใบหน้าได้
- ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดการ จำกัดพื้นที่รวมไม่เกิน 20,000 ตารางเมตร เปิดถึง 21.00 น.
- เปิดสวนสัตว์ หรือสถานที่จัดแสดงสัตว์
นอกจากนี้ยังผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียนและสถาบันการศึกษา เพื่อใช้สอบคัดเลือกและอบรมระยะสั้น แต่ไม่ได้เปิดเพื่อการเรียนการสอน และเปิดโรงเรียนเอกชนเฉพาะประเภทวิชาชีพและศิลปะการกีฬา
รวมถึงเปิดศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เปิดเพื่อให้เจ้าหน้าที่มาประกอบอาหารสำหรับเด็กเพื่อให้ผู้ปกครองมารับอาหารไปให้เด็ก โดยยังไม่ให้เด็กมาที่สถานที่
ขณะที่การเดินทางเข้าราชอาณาจักร ทางบก น้ำ อากาศ ยังคงมาตรการเข้มข้นในลักษณะเดิม
พล.อ. สมศักดิ์ ยังกล่าวถึงเหตุผลที่ต้องมีประกาศเคอร์ฟิวต่อไป เนื่องจากในเวลานี้ยังมีคนฝ่าฝืน รวมกลุ่มสังสรรค์ เล่นการพนัน ซึ่งเป็นการแพร่โรคได้ จึงจำเป็นต้องมีเคอร์ฟิวอยู่
ห้ามพลาด! ฟอรัมที่เจาะลึก New Normal ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย จากวิทยากรระดับประเทศ 40 คน ซื้อบัตรงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM ที่ https://www.eventpop.me/e/8705-economic-forum