วันนี้ (21 กรกฎาคม) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการ (รมว.) กระทรวงกลาโหม เข้าปฏิบัติหน้าที่ที่ทำเนียบรัฐบาล เป็นประธานการประชุมหารือเรื่องมาตรการให้ความช่วยเหลือภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในช่วงสถานการณ์โควิด โดยมี วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี, สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงพลังงาน, ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ, เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.กระทรวงกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม, ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และปลัดกระทรวงการอุดมศึกษาฯ เข้าร่วมพิจารณาแนวทางการลดค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา เช่น พิจารณาให้ส่วนลดเงินบำรุงการศึกษา ค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าธรรมเนียมการเรียน และค่าธรรมเนียมอื่นในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 เป็นกรณีพิเศษ โดยให้ครอบคลุมทั้งสถานศึกษารัฐและเอกชน
ภายหลังการประชุม ตรีนุชเปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงการเรียนของนักเรียน การจัดการเรียนการสอนของครู และค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองท่ามกลางวิกฤตโควิด จึงมอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จัดทำโครงการมาตรการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการเรียนรู้ เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ของนักเรียน ครู และผู้ปกครองในสถานการณ์โควิด ซึ่งมาตรการช่วยเหลือนี้จะครอบคลุมทั้งโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.), สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.), สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.), โรงเรียนสังกัด กทม. และโรงเรียนในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) โดยจะนำมาตรการการช่วยเหลือเหล่านี้เสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบหลักการในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้
ทั้งนี้มาตรการการช่วยเหลือนักเรียน ครู และผู้ปกครองนั้น ซึ่งมีหลักการเบื้องต้นคือ ศธ. จะไม่ทิ้งเด็กคนใดคนหนึ่งไว้ข้างหลังและไปให้ถึงผู้ปกครอง และมาตรการช่วยเหลือสถานศึกษาให้ได้พัฒนาเรื่องสื่อเรียนการสอน โดยมาตรการทั้งหมดจะใช้งบประมาณกลางในการดำเนินการ นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังมีความเป็นห่วงเรื่องการเรียนการสอนออนไลน์ของนักเรียนมัยมศึกษาตอนปลายมากขึ้น โดยอยากให้เปิดช่องทางการเรียนการสอนผ่าน On Air ในรูปแบบการเรียนการสอนของมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมให้มากขึ้น เพื่อให้เด็กมีช่องทางการเรียนรู้อย่างหลากหลาย
ในส่วนของกระทรวงอุดมศึกษาฯ ที่ประชุมเห็นชอบในหลักการที่กระทรวงอุดมศึกษาฯ หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีข้อสรุปว่า ลดค่าเล่าเรียนในช่วงสถานการณ์โควิด ที่เป็นนักศึกษาชาวไทยระดับปริญญาตรีและบัณฑิตศึกษา ภาคปกติ ภาคพิเศษ และภาคสมทบ ในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐและเอกชน โดยพบว่ามีสถาบันอุดมศึกษาของรัฐและในกำกับของรัฐ 35 แห่ง จำนวนนักศึกษา 922,794 คน มหาวิทยาลัยราชภัฏ 38 แห่ง นักศึกษา 396,858 คน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล 9 แห่ง นักศึกษา 133,782 คน สถาบันวิทยาลัยชุมชน 1 แห่ง นักศึกษา 11,678 คน สถาบันอุดมศึกษาเอกชน 72 แห่ง นักศึกษา 285,500 คน รวม 155 แห่ง นักศึกษา 1,750,109 คน
โดยสถาบันอุดมศึกษา ภาครัฐ ลดค่าเล่าเรียนและค่าธรรมเนียมการศึกษาโดยกำหนดเป็นขั้นดังนี้
ส่วนที่ไม่เกิน 50,000 บาท ลดค่าเล่าเรียน ค่าธรรมเนียมการศึกษาร้อยละ 50
ส่วนตั้งแต่ 50,001 บาท ถึง 100,000 บาท ลดร้อยละ 30
ส่วนตั้งแต่ 100,001 บาทขึ้นไป ลดร้อยละ 10
สำหรับงบประมาณที่ใช้สนับสนุนจากสถาบันอุดมศึกษาสนับสนุนร้อยละ 20 และรัฐบาลสนับสนุนเพิ่มเติมอีกร้อยละ 30
ทั้งนี้ สถาบันอุดมศึกษาเอกชน รัฐบาลสนับสนุนค่าเล่าเรียน ค่าธรรมเนียมการศึกษา คนละ 5,000 บาท และลดค่าเรียนเพิ่มเติมและสนับสนุนมาตรการอื่นๆ เช่น สถาบันอุดมศึกษาแต่ละแห่งจะมีมาตรการขยายเวลาผ่อนชำระหรือผ่อนจ่ายค่าธรรมเนียมการศึกษา/ตั้งกองทุนสนับสนุนการศึกษา/จัดหาอุปกรณ์โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับนักศึกษาเพื่อใช้ศึกษาออนไลน์/ส่วนลดค่าหอพักนักศึกษา/จัดสวัสดิการพิเศษกรณีนักศึกษาป่วยด้วยโรคโควิด เป็นต้น