จากกรณีที่วันนี้ (20 กรกฎาคม) ประเทศไทยได้ลงนามกับบริษัท Pfizer จัดหาวัคซีนชนิด mRNA ของ Pfizer 20 ล้านโดส โดยคาดว่าจะมีการส่งมอบภายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ตามข้อตกลงในสัญญา เพื่อฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า ผู้สูงอายุ และกลุ่มอื่นๆ ตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติมีมติเห็นชอบ รวมทั้งประเทศไทยมีแผนสั่งซื้อวัคซีน Pfizer เพิ่มเติมอีก 50 ล้านโดสในปีหน้า
อย่างไรก็ตามยังมีวัคซีน Pfizer ที่ได้รับบริจาคจากสหรัฐอเมริกา 1.5 ล้านโดสมาถึงในปลายเดือนนี้ ซึ่งล่าสุดแฟนเพจ U.S. Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความว่า สหรัฐฯ จะบริจาควัคซีนโควิดของ Pfizer จำนวน 1.5 ล้านโดส มูลค่า 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับไทย การบริจาคครั้งนี้รวมถึงวัคซีนหลายล้านโดสที่สหรัฐฯ มอบให้กับประเทศเพื่อนบ้านของไทย จะช่วยให้ไทยและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเร่งการฉีดวัคซีนเพื่อให้พลเมืองของตนปลอดภัย ตลอดจนฟื้นฟูเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้วัคซีน Pfizer ได้รับการขึ้นทะเบียนแบบมีเงื่อนไขจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2564 นับเป็นวัคซีนโควิดรายการที่ 6 ของไทย ซึ่งแผนการฉีดประกอบด้วยการฉีดวัคซีนจำนวน 2 เข็ม โดยเข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรก 21 วัน และขึ้นทะเบียนให้ใช้สำหรับผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป ขณะที่วัคซีนอีก 5 รายการขึ้นทะเบียนสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
ทั้งนี้วัคซีนตัวนี้เป็นวัคซีนโควิดที่ได้รับการรับรองให้นำมาใช้ในภาวะฉุกเฉินโดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ทำให้มั่นใจได้ว่าประเทศไทยจะมีวัคซีนหลากหลายชนิดฉีดให้กับประชาชน และสร้างความมั่นคงทางสุขภาพของประเทศไทยต่อไป
ด้านศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี (PMOC) ระบุว่า วัคซีน Pfizer (mRNA) จากความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย-สหรัฐฯ ล็อตแรก 1.5 ล้านโดส จะถึงประเทศไทยวันที่ 29 กรกฎาคมนี้
