รัฐบาลสหรัฐฯ และหลายประเทศในยุโรปแสดงความไม่พอใจหลังเบลารุสบังคับเครื่องบินโดยสารของ Ryanair เที่ยวบินระหว่างเอเธนส์ของกรีซสู่เมืองหลวงของลิทัวเนียให้ลงจอดในกรุงมินสก์ของเบลารุสเพื่อจับกุมนักข่าวและนักเคลื่อนไหวที่เป็นปรปักษ์ต่อประธานาธิบดี อเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก
โดยผู้นำสหภาพยุโรปเรียกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็น ‘การจี้เครื่องบิน’ และจะมีการหารือเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้เบลารุสในการประชุมวันนี้ หลังเครื่องบินสายการบิน Ryanair เที่ยวบิน 4978 ที่เดินทางจากเมืองหลวงของกรีซสู่กรุงวิลนิอุสของลิทัวเนียถูกเปลี่ยนเส้นทางไปลงจอดที่เบลารุสนานหลายชั่วโมง เพื่อจับกุม โรมัน โปรเตเซวิช นักเคลื่อนไหวและอดีตบรรณาธิการ Nexta วัย 26 ปีที่อยู่บนเครื่อง
ทางการเบลารุสให้เหตุผลในการสั่งให้เครื่องบินเปลี่ยนเส้นทางว่าเป็นเพราะกังวลเรื่องการลอบวางระเบิด อย่างไรก็ตามไม่พบวัตถุระเบิดบนเครื่องแต่อย่างใด แต่โปรเตเซวิชถูกทางการควบคุมตัวก่อนที่เครื่องบินจะได้รับอนุญาตให้ขึ้นบินได้อีกครั้ง ส่งผลให้เที่ยวบินล่าช้ากว่ากำหนดเดิมกว่า 6 ชั่วโมง โดยลงจอดที่กรุงวิลนิอุสของลิทัวเนียเมื่อคืนวานนี้ เวลา 21.25 น. ตามเวลาท้องถิ่น
ด้านกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ระบุว่าการบังคับเครื่องบินเปลี่ยนเส้นทางนั้นเป็น ‘การกระทำที่น่าตกใจ’ หลังเบลารุสส่งเครื่องบินขับไล่แบบ MiG-29 บินประกบและนำเครื่องบินโดยสารไปลงจอดในกรุงมินสก์ ซึ่งในขณะนั้นเครื่องบินยังบินอยู่ในน่านฟ้าเบลารุส
ผู้โดยสารที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า โปรเตเซวิชรู้สึกหวาดกลัว และหันมาบอกผู้โดยสารคนอื่นๆ ว่าเขาอาจเผชิญกับโทษประหารชีวิต
ขณะที่สื่อทางการของเบลารุสรายงานว่า ประธานาธิบดีลูกาเชนโก ซึ่งปกครองประเทศมาตั้งแต่ปี 1994 เป็นคนออกคำสั่งให้เปลี่ยนเส้นทางเครื่องบินด้วยตนเอง โดยนับตั้งแต่การเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว เขาพยายามกวาดล้างและปิดปากนักวิจารณ์หรือนักเคลื่อนไหวมาตลอด โดยก่อนหน้านี้มีฝ่ายค้านถูกจับกุมหลายคน และมีบางส่วนลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ รวมถึง สเวตลานา ทิคานอฟสกายา แกนนำฝ่ายค้านคนสำคัญ
ด้าน กิตานาส เนาเซดา ประธานาธิบดีลิทัวเนีย ได้เรียกร้องให้ EU ออกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อเบลารุสในที่ประชุมผู้นำ EU วันนี้ (24 พฤษภาคม) โดยเขาบอกกับ BBC ว่า มาตรการลงโทษอาจส่งผลต่อพฤติกรรมของระบอบเบลารุสอย่างมาก
ภาพ: AFP
พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ
อ้างอิง: