รัฐบาลสหรัฐฯ และจีนมีความพยายามที่จะลดความตึงเครียดระหว่างกันจากปัญหาความขัดแย้งที่สะสมมานาน โดยเมื่อวานนี้ (17 มิถุนายน) ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้ประชุมร่วมกับ หยางเจี๋ยฉือ นักการทูตระดับสูงสุดของจีนที่เมืองโฮโนลูลู รัฐฮาวาย ซึ่งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะปฏิบัติตามฉันทามติที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และสีจิ้นผิงตกลงร่วมกันก่อนหน้านี้
มอร์แกน ออร์เตกัส โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ในที่ประชุมปอมเปโอเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่สองชาติต้องทำข้อตกลงที่ต่างตอบแทนซึ่งกันและกัน ทั้งในมิติการค้า ความมั่นคง และการทูต
ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนตกต่ำลงในช่วงหลัง จากชนวนวิกฤตโควิด-19 ที่ต่างฝ่ายต่างกล่าวโทษซึ่งกันและกันว่ารับมือกับโรคระบาดล้มเหลว นอกจากนี้ยังมีประเด็นการผลักดันกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติของจีนในฮ่องกง ซึ่งสหรัฐฯ มองว่าจีนพยายามลิดรอนสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของคนฮ่องกง
ซึ่งในที่ประชุม ปอมเปโอได้เรียกร้องให้จีนแชร์ข้อมูลในการต่อสู้กับโรคระบาดอย่างโปร่งใส และหาทางป้องกันการระบาดในอนาคต
ส่วนสำนักข่าว Xinhua ของจีนรายงานว่า ทั้งสองฝ่ายตกลงกันที่จะมีปฏิสัมพันธ์กันให้มากขึ้น และเชื่อว่าการประชุมครั้งนี้เป็นเวทีการพูดคุยที่สร้างสรรค์
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่การประชุมดำเนินไปอยู่นั้น ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ลงนามในกฎหมายให้มีการคว่ำบาตรผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกดขี่ชาวมุสลิมอุยกูร์ในเขตปกครองตนเองซินเจียง ซึ่งเป็นอีกประเด็นที่สร้างความระหองระแหงระหว่างสองประเทศมหาอำนาจก่อนหน้านี้
ส่วนในที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ G7 ก็มีการออกแถลงการณ์ร่วมโดยเรียกร้องให้จีนยับยั้งการผ่านกฎหมายความมั่นคงในฮ่องกงด้วย
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: