United Airlines หนึ่งในสายการบินบิ๊กโฟร์ของสหรัฐฯ ประกาศว่าบริษัทอาจจำเป็นต้องปลดพนักงานในสหรัฐฯ ลงเกือบครึ่งหนึ่ง หลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตการระบาดของโควิด-19 ขณะที่เงินช่วยเหลือจากรัฐบาลจำนวน 5 พันล้านดอลลาร์สำหรับจ่ายค่าจ้างภายใต้กฎหมาย CARES Act จะหมดลงในวันที่ 1 ตุลาคม
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (8 กรกฎาคม) United Airlines แจ้งกับพนักงานจำนวน 36,000 คนว่า พวกเขาอาจตกงานหลังวันที่ 1 ตุลาคม ซึ่งคิดเป็นประมาณ 45% ของพนักงานทั้งหมดที่ทำงานในสหรัฐฯ
ดีมานด์การเดินทางทางอากาศยังคงชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง สืบเนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์และสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี โดยจำนวนผู้โดยสารเครื่องบินลดฮวบลงถึง 75% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนดีมานด์ที่กระเตื้องขึ้นในช่วงวันหยุดฉลองวันชาติ 4 กรกฎาคมนั้น เป็นเพียงปรากฏการณ์ช่วงสั้นๆ เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อที่พุ่งขึ้นในช่วงหลัง อาจทำให้ยอดการจองตั๋วเครื่องบินลดฮวบลงอีก ขณะที่การยกเลิกตั๋วก็มีแนวโน้มพุ่งขึ้น
ผู้บริหาร United Airlines กล่าวว่า การระบาดของไวรัสครั้งนี้เป็นวิกฤตที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของสายการบิน โดยบริษัทมีแผนลดต้นทุนและระดมเงินทุนเพิ่มเติมเพื่อประคับประคองธุรกิง แต่ทางสายการบินก็ยังสูญเงินราว 40 ล้านดอลลาร์ต่อวันจากค่าใช้จ่ายต่างๆ
สำหรับพนักงานที่จะได้รับผลกระทบจากการถูกเลิกจ้างครั้งนี้ ครอบคลุมพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินประมาณ 15,000 คน พนักงานประจำเกตและพนักงานบริการลูกค้าในสนามบิน 11,000 คน ช่างยนต์และเจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุง 5,500 คน และนักบิน 2,250 คน
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: