วันนี้ (25 ธันวาคม) ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกิจกรรมของกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย ‘มหกรรมร่วมใจแก้หนี้: มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน’ จัดขึ้นเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจนไม่สามารถชำระหนี้ได้
โดยมีเจ้าหนี้เข้าร่วมกว่า 60 ราย เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มเปราะบางที่รายได้ยังไม่กลับมาเต็มที่ และอาจได้รับผลกระทบเพิ่มเติมจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น
โดยกิจกรรมดังกล่าวได้เปิดให้มีการลงทะเบียนมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนเพื่อขอแก้ไขหรือปรับปรุงโครงสร้างหนี้ผ่านระบบออนไลน์มากกว่า 1.7 แสนรายแล้ว (ข้อมูลวันที่ 19 ธันวาคม 2565) คิดเป็นจำนวนรายการสะสมมากกว่า 3.8 แสนรายการ
ประกอบด้วย ลูกหนี้ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 35% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19% ภาคกลาง 12% และภาคอื่นๆ 34% ส่วนประเภทสินเชื่อที่มีการลงทะเบียนสูงสุดคือ บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล 75% สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ 6% และจำนำทะเบียนรถ 4%
ทิพานันกล่าวต่อไปว่า เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ให้ครอบคลุมและทั่วถึงมากที่สุดตามนโยบายที่จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง จึงได้ขยายระยะเวลาลงทะเบียนออกไป จากเดิมที่จะสิ้นสุดระยะเวลาการลงทะเบียนวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 เป็นวันที่ 31 มกราคม 2566 โดยลงทะเบียนได้ที่ www.bot.or.th/debtfair