กรณีกองทัพเมียนมาโจมตีทางอากาศถล่มเป้าหมายกลุ่มต่อต้านที่เข้าร่วมพิธีเปิดสำนักงานกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (People’s Defence Force: PDF) ที่หมู่บ้านปาซิกยี ในภูมิภาคสะกาย จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 50 คน และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก
ล่าสุดทางองค์การสหประชาชาติ (UN) ได้ออกมาแสดงท่าทีต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดย อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ เผยแพร่แถลงการณ์ผ่านโฆษกส่วนตัว “ขอประณามอย่างรุนแรงต่อการโจมตีโดยฝีมือกองทัพเมียนมา และเรียกร้องให้ผู้รับผิดชอบถูกลงโทษ” ขณะเดียวกันยังเน้นย้ำข้อเรียกร้องให้กองทัพเมียนมายุติการใช้ความรุนแรงต่อประชากรเมียนมาทั่วประเทศ
ด้าน โฟลเคอร์ เติร์ก (Volker Turk) ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ กล่าวว่า การโจมตีทางอากาศที่เกิดขึ้นนั้น ‘น่าหวาดกลัว’ โดยมีเหยื่อจากการโจมตีหลายราย รวมถึงเด็กนักเรียนที่ทำการแสดงเต้นอยู่ในงาน ซึ่งเขาประณามกองทัพเมียนมาว่า “ไม่สนใจพันธกรณีทางกฎหมายที่ชัดเจนในการปกป้องพลเรือนระหว่างดำเนินการสู้รบ”
ทั้งนี้ UN ไม่ยืนยันจำนวนผู้เสียชีวิตจากการโจมตีที่เกิดขึ้น แต่ระบุว่ามีพลเรือนหลายรายเสียชีวิต ขณะที่รายงานจาก BBC Burmese, Radio Free Asia (RFA) และ The Irrawaddy ชี้ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตอาจมีตั้งแต่ 50-100 ราย
ทางด้านรัฐบาลสหรัฐอเมริกาแสดงความกังวลอย่างมากต่อการกระทำของกองทัพเมียนมาที่โจมตีทางอากาศโดยไม่ใส่ใจชีวิตพลเรือน พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลเมียนมายุติการใช้ความรุนแรงอันน่าสยดสยองต่อพลเรือน และอนุญาตให้มีการเข้าถึงด้านมนุษยธรรมโดยไม่จำกัด ตลอดจนเคารพในปณิธานประชาธิปไตยอันแท้จริงของประชาชน
“การโจมตีที่รุนแรงเหล่านี้ยิ่งตอกย้ำให้เห็นถึงความไม่ใส่ใจต่อชีวิตมนุษย์ของรัฐบาลเผด็จการ และความรับผิดชอบต่อวิกฤตการเมืองและมนุษยธรรมอันเลวร้ายในพม่า หลังจากการรัฐประหารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2021” วีแดนต์ พาเทล โฆษกกระทรวงการต่างประเทศระบุในแถลงการณ์ โดยเรียกเมียนมาในชื่อเดิมคือพม่า
อย่างไรก็ตาม กองทัพเมียนมาปฏิเสธข้อกล่าวหาจากนานาชาติที่มองว่าพวกเขากระทำการอันโหดร้ายต่อพลเรือน โดยชี้แจงว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือการต่อสู้กับ ‘กลุ่มผู้ก่อการร้าย’ ที่มุ่งมั่นจะทำให้ประเทศสั่นคลอน
ภาพ: LYNN BO BO / POOL / AFP
อ้างอิง: