เชื่อว่าคนกรุงเทพฯ ที่สัญจรบนท้องถนนบ่อยๆ คงจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีกับปริมาณรถจักรยานยนต์ หรือในชื่อที่คุ้นหูกว่าจำนวนมหาศาลอย่าง ‘มอเตอร์ไซค์’ ความแพร่หลายของรถมอเตอร์ไซค์มีส่วนสำคัญที่ทำให้กิจกรรมต่างๆ ทางเศรษฐกิจเดินหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งรีบ เช่น การส่งอาหาร ส่งของ และส่งคน เนื่องจากความคล่องตัวที่สามารถฝ่าการจราจรในเมืองกรุงได้ดีกว่า นอกจากการตอบโจทย์เรื่องรถติด ความสะดวกสบาย และราคาที่เข้าถึงง่ายกว่าแล้ว มอเตอร์ไซค์ก็ยังถูกใช้เป็นยานพาหนะอย่างกว้างขวางในหมู่คนไทยทั่วประเทศ
ผลการสำรวจจาก Pew Research Center พบว่า ประเทศไทยมีสัดส่วนการครอบครองรถมอเตอร์ไซค์ต่อครัวเรือนถึง 87% ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุดในโลก แต่นั่นเองก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ประเทศไทยมีอัตราการเกิดของอุบัติเหตุจากรถมอเตอร์ไซค์สูงที่สุดเช่นเดียวกัน โดยเฉลี่ยแล้วมีคนไทยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุดังกล่าวที่ 5,000 รายต่อปี
เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา บริษัท โพรโตเมท จำกัด สตาร์ทอัพสัญชาติไทย ผู้มุ่งเน้นการสร้างนวัตกรรมด้าน Smart Electronics และ Smart Mobility ได้ประกาศเปิดตัว ‘UltraFusion-X1’ หมวกกันน็อกมอเตอร์ไซค์อัจฉริยะ (Smart Helmet) ที่จะเปลี่ยนแปลงประสบการณ์การขับขี่มอเตอร์ไซค์ให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
“บริษัท โพรโตเมท จำกัด มีความตั้งใจและมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมดีๆ เพื่อแก้ไขปัญหาสังคมไทย (Social Impacts) โดยเฉพาะปัญหาเรื่องความปลอดภัยและอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งประเทศไทยมีสถานการณ์วิกฤตอย่างยิ่ง” ดร.กานต์ กาญจนาภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทฯ กล่าวถึงที่มาของการออกแบบหมวกกันน็อกมอเตอร์ไซค์อัจฉริยะ
“เพราะบริษัทฯ เชื่อว่า หากผู้ขับขี่มีอุปกรณ์ที่ถูกต้องตามมาตรฐาน มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ผู้ขับขี่คงจะได้รับประสบการณ์ที่ดีและมีแนวโน้มที่จะสวมใส่หมวกกันน็อกมากขึ้น ซึ่งน่าจะมีส่วนช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนน”
ดร.กานต์ กาญจนาภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท โพรโตเมท จำกัด
เป็นครั้งแรกของโลกที่หมวกกันน็อกมอเตอร์ไซค์ประยุกต์ใช้ระบบเซ็นเซอร์หลากหลายรวมกัน ประกอบไปด้วย ระบบกล้องบันทึกวิดีโอ 4 ตัวรอบทิศทาง 360 องศา (Advanced Quad Camara System) สามารถบันทึกภาพและวิดีโอความละเอียดสูงระดับ 4K 60/30 FPS คมชัดถึง 12 ล้านพิกเซลพร้อมกัน และเซ็นเซอร์วัดการเคลื่อนไหวระหว่างการขับขี่ โดยสามารถวัดอัตราเร่ง 3 แกน และความเร็วเชิงมุม 3 แกน ได้อย่างแม่นยำด้วย 3-DOF Accelerometer และ 3-DOF Gyroscope รวมทั้ง GPS เซ็นเซอร์ที่จะระบุตำแหน่งและเส้นทางระหว่างการขับขี่
ระบบ AI-Blindspot Warning ที่จะช่วยเรื่อง Blindspot Detection เพื่อลดจุดบอดที่ผู้ขับขี่อาจมองข้ามและเตือนมายังผู้ขับขี่ให้ระมัดระวัง นอกจากนี้ยังมี Mobile Application สำหรับการควบคุมการสั่งงานหมวกกันน็อกมอเตอร์ไซค์อัจฉริยะที่สะดวกและใช้งานง่าย พร้อมซอฟต์แวร์อัปเดตเพื่อปรับปรุงและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ ให้กับผู้ขับขี่ โดย UltraFusion-X1 ได้รับการรับรองมาตรฐานด้านความปลอดภัยทั้งในประเทศและต่างประเทศด้วย มอก.369-2557 และ ECER 22.05
หมวกกันน็อก UltraFusion-X1 ยังใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี่แบบ Solid State Battery ซึ่งมีความทนต่อแรงกระแทกที่สูงกว่าแบตเตอรี่ทั่วไปมาก วัสดุเปลือกหมวกเป็นคาร์บอนไฟเบอร์คอมโพสิตที่แข็งแรงและทนทาน เน้นการออกแบบให้เข้ากับสไตล์ของรถมอเตอร์ไซค์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทรง Racing, Touring, Naked, Power Scooter หรือ Classic โดยโพรโตเมทเปิดตัวสองรุ่นให้ลูกค้าชาวไทยเป็นประเทศแรก นำโดยรุ่น UltraFusion-X1 มาพร้อมกล้อง 4 ตัว และ UltraFusion-M1 กับกล้อง 2 ตัว เปิดให้จองพรีออร์เดอร์ได้แล้ววันนี้
ทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้ออกแบบให้ผลิตภัณฑ์ตอบสนองไลฟ์สไตล์การขับขี่ที่หลากหลาย โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกปรับระดับความคมชัดของวิดีโอผ่าน Protomate Mobile Application ซึ่งมีให้เลือกถึง 6 โหมดในรุ่น UltraFusion-M1 ตัวแอปพลิเคชันยังสามารถย้อนดูภาพถ่ายและวิดีโอในมือถือได้อีกด้วย
นอกจากนี้ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับโหมดภาพและวิดีโอผ่าน Protomate Remote Control ทำให้ผู้ขับขี่เลือกเปิด-ปิดการบันทึกภาพได้ตามต้องการขณะขับขี่ ตัวกล้องมีระบบเทคโนโลยีป้องกันแรงสั่นสะเทือน (Video Stabilization) ที่ทำให้ผู้ใช้งานเก็บภาพในขณะเดินทางได้กับทุกสภาพการเดินทาง หมวกกันน็อกมาพร้อมกับไมโครโฟนในตัวเพื่อบันทึกเสียง ทำให้ทุกการสื่อสารไร้เสียงรบกวน สามารถเชื่อมต่อหมวกเข้ากับโทรศัพท์มือถือได้ทั้งระบบปฏิบัติการ Android และ iOS ไร้สายผ่าน WiFi โดยมีรายละเอียดทางเทคนิคของทั้งสองรุ่น ดังนี้
“ทั้งนี้ หมวกกันน็อกมอเตอร์ไซค์อัจฉริยะที่ทีมเราได้วิจัยและพัฒนาขึ้นมานั้นสะท้อนความตั้งใจและมุ่งมั่นที่จะยกระดับผลิตภัณฑ์ด้าน Consumer Electronics ของไทยให้สามารถที่จะแข่งขันบนเวทีสากลได้ ซึ่งเป็นการผสมผสานของศาสตร์การออกแบบผลิตภัณฑ์ (Industrial Design) ด้านฮาร์ดแวร์ (Hardware) และซอฟต์แวร์ (Software) เข้าด้วยกัน ซึ่งธุรกิจสตาร์ทอัพโดยเฉพาะด้านฮาร์ดแวร์ หรือผลิตภัณฑ์ที่สามารถจับต้องได้นั้น ยังมีจำนวนอยู่น้อยมากในประเทศไทยและอาเซียน ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผลงานชิ้นนี้จะทำให้เกิดบรรยากาศที่ดีในอุตสาหกรรมในการร่วมกันสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาสังคมให้ดียิ่งขึ้น” วิวัฒน์ วูวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาธุรกิจและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทฯ กล่าวเพิ่มเติม
วิวัฒน์ วูวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ
และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท โพรโตเมท จำกัด
โพรโตเมทเป็นหนึ่งในตัวอย่างของสตาร์ทอัพไทยที่สามารถนำเทคโนโลยีมาพัฒนาสิ่งที่เป็นมากกว่าผลิตภัณฑ์ แต่เป็นนวัตกรรมที่แสดงให้เห็นว่า การสร้างโซลูชันที่ตอบโจทย์กับตลาดได้ในวงกว้าง เป็นกุญแจสำคัญในการเดินหน้าต่อไปในอนาคตของธุรกิจสตาร์ทอัพไทย