กองเสนาธิการแห่งกองทัพยูเครนเผยแพร่แถลงการณ์ยืนยันว่า กองกำลังทหารหลายร้อยนายที่ติดอยู่ภายในบังเกอร์ใต้ดินของโรงงานเหล็กอาซอฟสตาล (Azovstal) ซึ่งเป็นฐานที่มั่นสุดท้ายในเมืองมาริอูโปล เมืองท่าสำคัญทางตะวันออกเฉียงใต้ ได้อพยพออกจากเมืองแล้ว และสละการควบคุมเมืองให้แก่กองทัพรัสเซีย ที่พยายามทิ้งระเบิดและบุกยึดเมืองอย่างต่อเนื่องตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา
“กองทหารมาริอูโปลได้บรรลุภารกิจในการต่อสู้แล้ว กองบัญชาการทหารสูงสุด สั่งให้ผู้บัญชาการหน่วยที่ประจำการอยู่ที่อาซอฟสตาลช่วยชีวิตบุคลากร ผู้พิทักษ์แห่งมาริอูโปลคือวีรบุรุษแห่งยุคของเรา” แถลงการณ์ระบุ
ที่ผ่านมา ทหารและพลเรือนยูเครนหลายร้อยคนซ่อนตัวอยู่ใต้โรงงานเหล็กอาซอฟสตาล ก่อนจะมีการตกลงหยุดยิงและเปิดเส้นทางฉนวนมนุษยธรรม เพื่อให้อพยพพลเรือนออกมาได้ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
ซึ่งในส่วนของกองกำลังทหารนั้น รัสเซียอ้างว่าได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับยูเครน เพื่อเปิดทางให้อพยพทหารที่บาดเจ็บออกมาจากมาริอูโปล
จากข้อมูลของยูเครนพบว่า ทหารที่ได้รับการอพยพออกมามีประมาณ 260 นาย ซึ่งบางส่วนบาดเจ็บ และทั้งหมดถูกนำตัวไปยังพื้นที่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนที่รัสเซียสนับสนุน ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 พฤษภาคม)
ฮันนา มาเลียร์ (Hanna Maliar) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมยูเครน เปิดเผยว่า ทหารยูเครนที่อพยพออกจากโรงงานเหล็กอาซอฟสตาลได้รับบาดเจ็บ 53 นาย และถูกนำตัวไปยังโรงพยาบาลในเมืองโนโวซอฟสก์ บริเวณใกล้ชายแดนทางตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมของกลุ่มกบฏ ส่วนทหารอีก 211 นาย ถูกพาไปยังเมืองโอเลนิฟกา ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมของกลุ่มกบฏเช่นกัน
ข้อมูลที่ปรากฏสอดคล้องกับรายงานจากสำนักข่าว Reuters ที่ระบุว่า เห็นรถบัสพร้อมสัญลักษณ์ตัวอักษร Z ที่สนับสนุนการบุกของฝ่ายรัสเซีย บรรทุกกองกำลังทหารยูเครนจากอาซอฟสตาล เดินทางไปถึงเมืองโนโวซอฟสก์ เมื่อช่วงสายวานนี้ ซึ่งทหารบางนายถูกนำตัวลงจากรถด้วยเปลหาม
ขณะที่มาเลียร์ยืนยันว่า จะมีการแลกเปลี่ยนตัวระหว่างกองกำลังทหารยูเครนกลุ่มนี้ กับทหารรัสเซียที่ถูกกองทัพยูเครนจับกุมไว้
ด้านประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวในการแถลงหลังเที่ยงคืนที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น โดยเปิดเผยว่ากองทัพยูเครนพร้อมด้วยหน่วยข่าวกรองและทีมเจรจา ตลอดจนเจ้าหน้าที่กาชาดและองค์การสหประชาชาติ มีส่วนร่วมในปฏิบัติการอพยพทหารมาริอูโปลครั้งนี้
ซึ่งเขาแสดงความหวังว่าจะสามารถรักษาชีวิตของทหารในมาริอูโปลทั้งหมดได้ และยืนยันว่า “ยูเครนต้องการให้วีรบุรุษแห่งยูเครนมีชีวิต”
อย่างไรก็ตาม ยังไม่แน่ชัดว่ามีทหารยูเครนหลงเหลืออยู่ภายในโรงงานเหล็กอาซอฟสตาลอีกมากแค่ไหน โดยที่ผ่านมาคาดว่า มีทหารอยู่ในโรงงานเหล็กทั้งหมดประมาณ 600 นาย ซึ่งกองทัพยูเครนยืนยันว่า ยังคงพยายามหาทางอพยพทหารที่ติดอยู่ออกมา
การอพยพทหารออกจากโรงงานเหล็กอาซอฟสตาล นอกจากจะเป็นจุดสิ้นสุดของการโจมตีเมืองมาริอูโปลที่คร่าชีวิตประชาชนภายในเมืองไปหลายหมื่นคนตามที่ยูเครนอ้าง ยังถูกมองว่าเป็นความพ่ายแพ้ครั้งสำคัญสำหรับกองทัพยูเครน ที่พยายามต้านทานการรุกรานของรัสเซีย นับตั้งแต่เปิดฉากสงครามเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ซึ่งปัจจุบันรัสเซียได้เปลี่ยนแนวรบมาทางตะวันออกและตอนใต้ และเมืองมาริอูโปล ถือเป็นอีกจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่รัสเซียต้องการ
ภาพ: Leon Klein / Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง: