หนึ่งวันหลังจากยูเครนขออย่างเป็นทางการเพื่อเข้าเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป (EU) ในขณะต่อสู้กับกองกำลังรัสเซียที่บุกยูเครนในขณะนี้ โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน กล่าวต่อที่ประชุมรัฐสภายุโรปวานนี้ (1 มีนาคม) ระบุว่ายูเครนกำลังต่อสู้เพื่อเป็นสมาชิกที่เท่าเทียมของยุโรป และเรียกร้องต่อสหภาพยุโรปโดยระบุว่า ‘พิสูจน์ว่าคุณอยู่กับเรา’
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า สมาชิกฝ่ายนิติบัญญัติของสหภาพยุโรปหลายคนสวมเสื้อยืด #standwithUkraine ที่มีธงชาติยูเครน คนอื่นๆ ที่มีผ้าพันคอหรือริบบิ้นสีน้ำเงินและสีเหลืองยืนปรบมือให้กับเซเลนสกี ในขณะที่เขาพูดกับรัฐสภายุโรปผ่านวิดีโอลิงก์จากกรุงเคียฟ
“เรากำลังต่อสู้เพื่อเป็นสมาชิกที่เท่าเทียมของยุโรป” เซเลนสกีกล่าวเป็นภาษายูเครนในการปราศรัยที่แปลเป็นภาษาอังกฤษโดยล่ามที่พูดทั้งน้ำตา
“จงพิสูจน์ว่าคุณอยู่กับเรา จงพิสูจน์ว่าคุณจะไม่ปล่อยเราไป จงพิสูจน์ว่าคุณเป็นคนยุโรปจริงๆ แล้วชีวิตจะชนะความตาย และแสงสว่างจะชนะความมืด” เขากล่าว และบอกว่าสหภาพยุโรปจะแข็งแกร่งขึ้นมากหากมียูเครน
“เราอยู่ (กับคุณ)” รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป มาโรช เซฟโควิช กล่าวเพื่อตอบคำร้องขอของเซเลนสกี โดยกล่าวว่าสหภาพยุโรปจะจัดหาอาวุธให้กับยูเครน นอกเหนือจากการคว่ำบาตรรัสเซียอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
“และเราจะอยู่กับคุณเพื่อสร้างประเทศที่สวยงามของคุณขึ้นใหม่หลังจากที่คุณได้รับชัยชนะ” เขากล่าว
เช้าวานนี้ ผู้นำ 8 ประเทศสมาชิกจากทั้งหมด 27 ประเทศในสหภาพยุโรป เปิดจดหมายแถลงการณ์ร่วม เห็นพ้องเร่งจัดประชุมวาระเร่งด่วน เพื่ออนุมัติให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิกใหม่ของสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการในทันที ทว่ายูเครนนั้นทราบดีว่ากระบวนการเกี่ยวกับสมาชิกภาพใดๆ จะยาวนานและยากลำบาก
ชาร์ลส์ มิเชล ประธานผู้นำสหภาพยุโรป กล่าวกับรัฐสภายุโรปหลังจากคำกล่าวของเซเลนสกีว่า สหภาพยุโรปจะต้องพิจารณาคำขอที่ ‘ถูกต้องตามกฎหมาย’ ของยูเครนเพื่อเข้าร่วมอย่างจริงจัง แต่เขาเสริมว่า “มันจะเป็นเรื่องยาก พวกเรารู้ว่ามีมุมมองที่แตกต่างกันในยุโรป (เกี่ยวกับการขยายตัวของ EU เพิ่มเติม)”
นอกจากนี้ รัฐสภายุโรปมีมติที่ไม่มีผลผูกพัน โดยเสียงส่วนใหญ่ 637 ต่อ 13 เสียง (และงดออกเสียง 26 เสียง) เรียกร้องให้มีมาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรงขึ้น “โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อทำให้เศรษฐกิจและฐานอุตสาหกรรมของรัสเซียอ่อนแอลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มอุตสาหกรรมทหาร”
รัฐสภายุโรปยังเรียกร้องให้ผู้นำของสหภาพยุโรปเข้มงวดขึ้นกับผู้มีอำนาจและเจ้าหน้าที่ใกล้ชิดกับปูติน จำกัดการนำเข้าน้ำมันและก๊าซจากรัสเซีย ห้ามรัสเซียและพันธมิตรอย่างเบลารุสจากระบบส่งข้อความผ่านธนาคาร SWIFT ทั้งหมด และปิดท่าเรือสหภาพยุโรปทั้งหมดสำหรับเรือรัสเซีย หรือเรือที่มุ่งหน้าไปหรือกลับจากรัสเซีย อย่างไรก็ตาม ฝ่ายนิติบัญญัติของสหภาพยุโรปปฏิเสธที่จะเรียกรัสเซียว่าเป็น ‘รัฐอันธพาล’
ภาพ: Thierry Monasse / Getty Images
อ้างอิง: