×

การกลับมาของฟุตบอล #UCL ฤดูกาลใหม่ 2021/22!

14.09.2021
  • LOADING...
UEFA Champions League

คืนนี้แล้วที่ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกจะกลับมาทำการลงสนามอีกครั้งในฤดูกาลใหม่ 2021/22 ที่แค่การจับฉลากแบ่งสายกันก็สร้างความฮือฮาให้แก่แฟนบอลทั่วโลกได้แล้ว

 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่กลุ่มเดียวกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (ซึ่งเราเกือบจะได้เห็น คริสเตียโน โรนัลโด ดวลกับ ลิโอเนล เมสซี ในสีเสื้อทีมใหม่แล้ว) ไหนจะกลุ่มแห่งความตายอันลือลั่น และการอยู่ร่วมกันของบรรดาทีมบิ๊กเนมในหลายต่อหลายกลุ่ม

 

ความน่าตื่นเต้นนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะในระดับฟุตบอลสโมสรแล้ว #UCL คือรายการที่ดีที่สุดทั้งในเชิงของคุณภาพและความบันเทิง แม้ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ค่อนข้างลำบากจากแรงกระเพื่อมของปรากฏการณ์ ‘ยูโรเปียนซูเปอร์ลีก’ เมื่อช่วงเดือนเมษายน ที่สโมสรยักษ์ใหญ่ก่อกบฏ จนทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขันใหม่ซึ่งจะเริ่มในอีก 3 ฤดูกาลข้างหน้า

 

แต่นั่นเป็นเรื่องของอนาคต ปัจจุบัน ณ เข็มนาฬิกาเดินไป #UCL ฤดูกาลนี้มีอะไรที่น่าติดตามบ้าง?

 

การกลับมาของแฟนบอลในสนาม

หลังจากที่ต้องระเห็จไปเล่นกันแบบ ‘มินิทัวร์นาเมนต์’ ในช่วงโค้งสุดท้ายของแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2019/20 ที่ประเทศโปรตุเกส และลงสนามกันโดยที่แทบไม่มีแฟนฟุตบอลเข้าสนามได้เลยตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา ยกเว้นในนัดชิงชนะเลิศ ที่จัดกันที่เอสตาดิโอ ดู ดราเกา ของทีมเอฟซี ปอร์โต (ซึ่งย้ายมาจากอตาเติร์กสเตเดียมเป็นครั้งที่ 2)

 

ฤดูกาลนี้จะเป็นฤดูกาลแรกที่ถือว่าแฟนบอลได้กลับมาชมสุดยอดรายการของฟุตบอลระดับสโมสรกันในสนามอีกครั้ง โดยเงื่อนไขนั้นเป็นไปตามมาตรการของแต่ละประเทศและสถานการณ์ในเวลานั้น

 

ทั้งนี้ แม้จะมีปัญหาอยู่บ้างเพราะการเดินทางระหว่างประเทศในขณะนี้ยังเป็นเรื่องละเอียดอ่อน มีมาตรการที่เข้มงวดอย่างมากและอาจทำให้แฟนทีมเยือนประสบปัญหาอยู่บ้าง แต่อย่างน้อยที่สุดก็ถือเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นใหม่

 

และแชมเปียนส์ลีกที่ไม่มีแฟนบอลในสนามมันน่าเศร้าเกินไปจนไม่อยากให้เกิดขึ้นอีกแล้ว

 

ชีวิตใหม่ของโรนัลโดและเมสซี

ก่อนสิ้นสุดฤดูกาลที่แล้วไม่มีใครคิดว่าเราจะได้เห็น คริสเตียโน โรนัลโด และ ลิโอเนล เมสซี ย้ายทีมพร้อมกันในฤดูร้อนเดียวกัน แต่สิ่งนี้ก็เกิดขึ้นแล้ว (ยังดีที่ คีเลียน เอ็มบัปเป้, เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ และ แฮร์รี เคน ยังไม่ได้ย้ายตามด้วย)

 

สำหรับโรนัลโด มันอาจไม่ถึงกับเป็นการเปลี่ยนแปลงอะไรมากมายนักเพราะทีมใหม่ของเขาก็คือทีมเก่าในวันวานอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ในเรื่องของความท้าทายแล้วถือว่าไม่ธรรมดา

 

เพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมา ‘ปีศาจแดง’ ล้มเหลวในถ้วยใบใหญ่สุดเสมอ แม้ว่าจะมีโทรฟีแชมป์ใบเล็กอย่างยูโรปาลีก แต่ปีกลายก็พ่ายในนัดชิงแบบเซอร์ไพรส์ต่อบียาร์เรอัลอีก ดังนั้นทุกคนย่อมคาดหวังว่านักเตะที่ถือว่าเป็นเจ้าพ่อรายการนี้อย่างโรนัลโดจะช่วยเปลี่ยนแปลงโชคชะตาให้แมนฯ ยูไนเต็ดได้อีกครั้ง

 

บ้างว่าถ้วยใบสุดท้ายที่โรนัลโดคว้าได้กับทีมก่อนจะย้ายไปเรอัล มาดริด ก็คือถ้วย Big Ears ใบนี้ ดังนั้นการกลับมาครั้งนี้มันน่าจะ… (จินตนาการได้ตามสะดวก)

 

สำหรับเมสซี นี่คือชีวิตใหม่ของเขาอย่างแท้จริงและไม่ได้เป็นอย่างที่ฝันไว้เลย เพราะความฝันของราชาลูกหนังอาร์เจนไตน์คือการพาบาร์ซาคว้าถ้วยแชมเปียนส์ลีกให้ได้อีกครั้ง แต่เมื่อตอนนี้ชีวิตพลิกผันต้องมาอยู่กับปารีส แซงต์ แชร์กแมงแล้ว เขาก็ต้องก้าวเดินต่อไป

 

เปแอสเชเองก็มีปมที่ไม่เคยได้ถ้วยใบใหญ่เหมือนกัน เมสซีจึงเป็นอีกความหวังสำหรับพวกเขาด้วย

 

แชมป์เก่ากับอาวุธหนักชิ้นใหม่

ทีมหนึ่งที่ไม่พูดไม่ได้คือเชลซี แชมป์เก่าที่พิชิตแมนเชสเตอร์ ซิตี้ได้อย่างเฉียบขาดในนัดชิงชนะเลิศฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งในฤดูกาลใหม่นอกจากจะไม่อ่อนลงแล้ว ทีมของ โธมัส ทูเคิล ยังแข็งแกร่งขึ้นอีกมากด้วย หลังจากที่ได้ โรเมลู ลูกากู ศูนย์หน้าระดับพระกาฬกลับมาร่วมทีมอีกครั้ง

 

สตอรีของลูกากูอาจจะดูเรียบๆ ไม่หวือหวา เหมือนการกลับมาโอลด์แทรฟฟอร์ดของโรนัลโด แต่ดาวยิงเบลเยียมกับเชลซีถือว่าผูกพันกันทางจิตวิญญาณไม่ต่างกัน และศูนย์หน้าผู้นี้ได้ยกระดับเชลซีให้กลายเป็นทีมที่น่าเกรงขามยิ่งขึ้นไปอีก

 

น่าติดตามว่าทูเคิลจะพาทีมป้องกันแชมป์ได้หรือไม่ เพราะดูจากทรงบอลแล้วยังนึกไม่ออกว่าจะมีทีมที่ทะลวงเกมรับและหยุดเกมรุกของพวกเขาได้สักกี่ทีม

 

ยักษ์ชนยักษ์และกลุ่มแห่งความตาย

8 กลุ่มในรอบแรกของแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลนี้น่าสนใจหลายกลุ่มเลยทีเดียว เพราะมีรายการ ‘ยักษ์ชนยักษ์’ อยู่แทบทุกกลุ่ม

 

ตั้งแต่กลุ่มเอ ศึกของ 2 มหาเศรษฐี อย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้กับเปแอสเช, กลุ่มดี อินเตอร์ มิลานเจอกับเรอัล มาดริด, กลุ่มอี สองสโมสรที่มีตัวอักษรย่อนำหน้า FCB เหมือนกันอย่างบาเยิร์น มิวนิก และบาร์เซโลนา ต้องเจอกันเอง และในกลุ่มเอช เชลซีเจอกับยูเวนตุส

 

นอกจากนี้ยังมีกลุ่มแห่งความตายอย่างกลุ่มบี ที่แอตเลติโก มาดริด อยู่ร่วมกลุ่มกับลิเวอร์พูล, เอฟซี ปอร์โต และเอซี มิลาน ซึ่งด้วยชื่อชั้นและระดับความสามารถของทีมแล้วถือว่าใกล้เคียงและทุกทีมมีโอกาสที่จะเข้ารอบ

 

กลุ่มที่อาจจะดูกริบหน่อยคือกลุ่มจี ที่ประกอบไปด้วย ลีลล์, เซบียา, เรดบูล ซัลซ์บวร์ก และโวล์ฟสบวร์ก แต่ไม่แน่อาจจะมันที่สุดก็เป็นได้เหมือนกัน

 

ไม่มีกฎประตูทีมเยือนอีกต่อไป

การเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดสำหรับแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลนี้ (และทุกรายการสโมสรของยูฟ่า) คือการที่จะไม่มีการใช้กฎประตูทีมเยือน (Away Goal) อีกต่อไป หลังจากที่มีการใช้กฎนี้มาตั้งแต่ปี 1965

 

นั่นทำให้ในรอบน็อกเอาต์หากสองทีมแข่ง 2 นัดแล้วทำประตูได้เท่ากัน (1-1, 2-2, 3-3 เป็นต้น) ก็จะต้องลงแข่งในช่วงต่อเวลาพิเศษ และหากยังเสมอกันอีกก็ยิงจุดโทษตัดสิน จะไม่มีสถานการณ์ที่พลิกผันเหมือนหลายๆ ฤดูกาลที่ผ่านมา ที่ประตูทีมเยือนสร้างความแตกต่างอย่างมากในการแข่งขัน

 

เรื่องนี้ยังเป็นที่ถกเถียงกันว่าดีหรือไม่ดีกันแน่ และต้องรอติดตามกันต่อไป

 

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

  • เชอริฟฟ์ ติราสโปล ทีมจากมอลโดวา คือสโมสรเดียวที่ไม่เคยแข่งในแชมเปียนส์ลีกมาก่อน นี่คือครั้งแรกของพวกเขาและเป็นสโมสรแรกจากมอลโดวาด้วย
  • เอซี มิลาน มหาอำนาจลูกหนังวันวานได้กลับมาเล่นแชมเปียนส์ลีกครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 2013/14 หรือหายไปนานกว่า 7 ปีเลยทีเดียว
  • ลูกฟุตบอลที่ใช้ในการแข่งขันยังคงเป็นลูกฟุตบอลของ adidas ที่ชื่อว่า ‘Pyrostorm’ ซึ่งสื่อถึงความร้อนแรงของ Pyro หรือพลุไฟที่จุดในสนามผ่านรูปดวงดาวอันเป็นสัญลักษณ์ของรายการ
  • ในฤดูกาลนี้ ทีมที่ชนะในรอบแบ่งกลุ่มจะได้เงินรางวัล 2.8 ล้านยูโรต่อนัด และหากผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ จะได้เงินโบนัสอีก 9.6 ล้านยูโร และหากชนะรวดทุกนัดไปจนคว้าแชมป์ จะได้เงินรวมสูงสุด 85.1 ล้านยูโร โดยส่วนนี้ยังไม่รวมกับส่วนแบ่งรายได้ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด

 

นัดชิงชนะเลิศฤดูกาลนี้จะจัดขึ้นที่สนามเครสตอฟสกี (หรือกัซพรอม อารีนา) ในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X