UBS ธนาคารเอกชนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจจีนในปีนี้ลงจาก 4.2% มาอยู่ที่ 3% หลังการดำเนินนโยบาย COVID Zero ของจีนส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในเดือนเมษายนมากกว่าที่คาดไว้
รายงานเศรษฐกิจฉบับล่าสุดของ UBS ระบุว่า แม้เศรษฐกิจจีนจะมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ จากการที่รัฐบาลเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด ซึ่งจะช่วยให้การขนส่งสินค้าและวัตถุดิบสะดวกขึ้น แต่การฟื้นตัวของจีนในรอบนี้อาจไม่รวดเร็วเหมือนหลังการระบาดในรอบแรก
“โดยธรรมชาติของเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนที่แพร่ได้อย่างรวดเร็วจะทำให้การแพร่ระบาดยังมีอยู่ การที่จีนยังขาดยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้จะทำให้ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและผู้บริโภคยังไม่กลับมา” Tao Wang นักเศรษฐศาสตร์ของ UBS ระบุ
รายงานเศรษฐกิจของ UBS ยังประเมินว่า GDP ในไตรมาส 2 ของจีนในปีนี้จะขยายตัวได้ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 1.4% และอาจจะขยายตัวได้ต่ำกว่าในช่วงไตรมาสแรกถึง 8%
ขณะที่ J.P. Morgan อีกหนึ่งสถาบันการเงินยักษ์ใหญ์ของสหรัฐฯ ได้ปรับลดประมาณการ GDP จีนในปีนี้จาก 4.2% ลงมาเหลือ 3.7% ตามแนวโน้มเศรษฐกิจจีนในไตรมาส 2 ที่จะชะลอตัวลงจากผลของมาตรการ COVID Zero
“หากพิจารณาจากอัตราการติดเชื้อที่สูงของโควิดสายพันธุ์โอมิครอน และประสิทธิภาพของวัคซีนจีนที่ต่ำ จีนอาจจำเป็นต้องใช้มาตรการควบคุมที่เข้มงวดต่อไปจนกว่าจะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ หรือวัคซีนชนิดใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าถูกพัฒนาออกมา” Haibin Zhu นักวิเคราะห์ของ J.P. Morgan กล่าว
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP