ตามปกติแล้วรถโดยสารสาธารณะอย่างแท็กซี่ หรือ Uber ถือเป็นที่พึ่งอันดับหนึ่งของนักดื่ม โดยเฉพาะเมื่อดื่มจนมึนเมา และขับรถกลับบ้านไม่ไหว บริการรถโดยสารดูจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเกิดปัญหาอยู่เนืองๆ เมื่อผู้โดยสารครองสติไม่อยู่จนผู้ขับขี่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุต่างๆ ที่ไม่คาดฝัน
ล่าสุด Uber พยายามแก้ปัญหานี้ด้วยการจดสิทธิบัตรเทคโนโลยีที่จะช่วยบอกอาการเมาของผู้โดยสารแก่คนขับ เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกรับผู้โดยสารแต่ละครั้ง โดยเฉพาะในกะดึกที่เต็มไปด้วยนักดื่ม
ตามการรายงานของ CNN ระบุว่าบริษัท Uber Technology Inc. ได้พัฒนา AI ที่จะสามารถรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์อาการมึนเมาของผู้กดเรียกได้ โดยวิเคราะห์จากลักษณะการพิมพ์ข้อความ ความเร็วในการเดิน ความแม่นยำในการกดปุ่มคำสั่งต่างๆ ไปจนถึงเวลารวมทั้งหมดที่ใช้เรียกรถอีกด้วย
ตัวอย่างเช่น คนที่ใช้เวลานานกว่าจะพาตัวเองไปถึงริมถนน และใช้เวลาอีก 15 นาทีกว่าจะเรียกรถได้ อัลกอริทึมอัจฉริยะนี้อาจชี้ว่าคุณมีอาการมึนเมา เป็นต้น
การนำ AI เข้ามาใช้ นอกจากจะลดปัญหาผู้โดยสารมึนเมาที่มีพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ให้คนขับต้องคอยปวดหัว หรือตามล้างเช็ดเบาะหลังแล้ว ในอีกทางยังอาจช่วยผู้โดยสารนักดื่มจับคู่กับคนขับที่มีทักษะหรือผ่านการอบรมในการรับมือกับคนเมาไม่ได้สติอย่างเหมาะสมอีกด้วย
อย่างไรก็ดี สิ่งสำคัญที่สุดคือความปลอดภัยของคนขับที่จะมีมากขึ้นจากเทคโนโลยีนี้ ตามรายงานของ CNN ระบุว่าที่ผ่านมามีคนขับอย่างน้อย 103 คนถูกคุกคามทั้งทางร่างกายหรือลวนลามด้วยวาจา หลายกรณีเป็นผู้โดยสารที่มีอาการมึนเมาหรือดื่มแอลกอฮอล์มา
ดังนั้นเทคโนโลยีนี้ของ Uber จึงถูกคาดหวังว่าจะลดตัวเลขดังกล่าวลง เพราะถึงแม้จะเป็นงานบริการ แต่ศักดิ์ศรีและความปลอดภัยของผู้บริการก็เป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึง ไม่ว่าจากบริษัทหรือผู้โดยสารเองก็ตาม
อ้างอิง: