พายุไต้ฝุ่นพันฝน พัดกระหน่ำพื้นที่ตอนกลางของฟิลิปปินส์อย่างหนัก ในช่วงฉลองเทศกาลคริสต์มาสตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา (24 ธันวาคม) ส่งผลให้ประชาชนหลายหมื่นคนต้องอพยพทิ้งบ้านเรือน และมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 21 ราย ส่วนใหญ่เสียชีวิตจากการจมน้ำ ถูกต้นไม้ล้มทับหรือถูกไฟดูด และมีผู้สูญหายหลายคน
ลมกระโชกแรงและฝนที่ตกหนักจากอิทธิพลของพายุ ก่อให้เกิดดินถล่มและน้ำท่วมหลายหมู่บ้านในพื้นที่ราบลุ่ม มีบ้านเรือนหลายร้อยหลังได้รับความเสียหายหรือถูกน้ำท่วมฉับพลันซัดทำลาย ต้นไม้และเสาไฟฟ้าหักโค่นหลายต้น ส่งผลให้เกิดไฟฟ้าดับในหลายจังหวัด ขณะที่ท่าเรือในหลายเมืองที่ประสบภัย ประกาศระงับให้บริการเพื่อป้องกันอันตรายจากสภาพอากาศเลวร้าย ส่งผลให้ผู้โดยสารจำนวนกว่า 25,000 คน ที่ต้องการเดินทางในช่วงเทศกาลคริสต์มาสต้องติดค้างอยู่ตามท่าเรือ เช่นเดียวกับสนามบินบางแห่งที่ระงับให้บริการ ทำให้เที่ยวบินระหว่างประเทศและในประเทศต้องยกเลิกหลายสิบเที่ยว
เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันพลเรือน รายงานว่าหนึ่งในจุดที่ได้รับความเสียหายหนักที่สุด คือเมืองบาตัด ในจังหวัดอีโลอีโล ทางตะวันตกของประเทศ ซึ่งสภาพเมืองแทบจะกลายเป็นเมืองร้าง หลังประชาชนอพยพหนีออกจากเมืองและเกิดไฟฟ้าดับ ทำให้ทั้งเมืองมืดสนิท
“คุณจะไม่เจอใครเพราะไฟฟ้าดับทั่วเมือง คุณจะไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย ทั้งเมืองดูคล้ายกับเมืองผี” ซินดี แฟร์เรอร์ เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันพลเรือนกล่าว
ด้านเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น พร้อมด้วยกำลังทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครรวมหลายหมื่นคน ต่างสละการฉลองคริสต์มาส เพื่อออกปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ รวมทั้งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่อพยพไปอยู่ตามอาคารสนามกีฬาและโรงเรียนหลายแห่ง ที่ถูกใช้เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว
ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของฟิลิปปินส์ เปิดเผยวานนี้ (26 ธันวาคม) ว่าไต้ฝุ่นพันฝน อ่อนกำลังลงเล็กน้อย และกำลังเคลื่อนตัวออกสู่ทะเลจีนใต้ ด้วยความแรงลมราว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่อิทธิพลพายุยังส่งผลให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: