×

ซิกิ เบกิริสไตน์ การวางมือที่อาจทำให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สั่นสะเทือน

09.10.2024
  • LOADING...

ข่าวการเตรียมแยกทางกับทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ ซิกิ เบกิริสไตน์ ผู้อำนวยการสโมสรที่ทำงานกับ เป๊ป กวาร์ดิโอลา มาอย่างยาวนาน ตั้งแต่สมัยที่อยู่กับบาร์เซโลนา และยังทำงานร่วมกันอีกครั้งที่เรือใบสีฟ้า อาจดูเป็นข่าวการแยกทางธรรมดาเมื่อถึงเวลาอันควร เพราะแต่ละคนก็มีเส้นทางของตัวเอง

 

แต่อันที่จริงแล้ว เบกิริสไตน์นับเป็นฟันเฟืองสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เลยก็ว่าได้ เพราะเขาคือคนที่มีบทบาทสำคัญในการดึงตัวนักเตะมากมายมาที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เช่น เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี, แบร์นาร์โด ซิลวา, เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ หรือแม้กระทั่ง ยอสโก กวาร์ดิโอล

 

การแยกทางของเขาที่จะเกิดขึ้นหลังจบฤดูกาลนี้ ย่อมส่งผลกระทบไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และนั่นอาจเป็นผลกระทบครั้งสำคัญที่ทำให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปลี่ยนโฉมหน้าไป หากคนที่มาแทนเขาไม่ได้มีคุณสมบัติที่ใกล้เคียงหรือดีเพียงพอ

 

ใครคือ ซิกิ เบกิริสไตน์?

 

 

ซิกิ เบกิริสไตน์ เข้าสู่งานสายบริหารหลังจากจบเส้นทางการเล่นฟุตบอล เขามีประสบการณ์ค้าแข้งมากมาย และหนึ่งในสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เขาเคยรับใช้คือบาร์เซโลนา ก่อนไปแขวนสตั๊ดในวัย 35 ปีกับอุราวะ เรด ไดมอนส์ ในเจลีก ญี่ปุ่น เมื่อปี 1999

 

ด้วยสายสัมพันธ์และความผูกพันกับเมืองบาร์เซโลนาและแคว้นกาตาลุญญา ทำให้หลังเลิกเล่น เขาเลือกกลับไปทำงานที่สถานีโทรทัศน์แห่งกาตาลุญญา ก่อนกลายมาเป็นผู้อำนวยการฟุตบอลให้บาร์เซโลนาในปี 2003

 

ที่บาร์เซโลนา เขามีโอกาสร่วมงานกับ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ครั้งแรกในตอนที่กวาร์ดิโอลาเข้ามารับงานคุมทีมบาร์เซโลนา เบ เมื่อปี 2007 และหลังจากที่กุนซือชาวสเปนก้าวขึ้นมาคุมทีมชุดใหญ่ในปี 2008 เขาก็ทำงานร่วมกันมาตลอด 

 

จนกระทั่งปี 2010 เมื่อ โจน ลาปอร์ตา ก้าวลงจากตำแหน่งประธานสโมสร เบกิริสไตน์ก็แยกทางกับสโมสรตามไปอีกคน

 

อย่างไรก็ตาม เขากลับมาจับงานผู้อำนวยการฟุตบอลอีกครั้งกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2012 และดึงนักเตะมากมายเข้ามาสู่ทีม

 

ตลอดเวลาจากวันที่เขาเข้ามารับงานจนถึงปัจจุบัน เบกิริสไตน์ดึงนักเตะมาร่วมทีมเรือใบสีฟ้าไปแล้ว 80 คนพอดิบพอดี

 

แม้นั่นอาจดูเป็นผลงานสำคัญของเขา แต่อันที่จริงแล้ว ผลงานชิ้นเอกของผู้อำนวยการชาวสเปนคือการดึงตัว เป๊ป กวาร์ดิโอลา มาคุมทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2016 

 

เพราะนั่นคือการเปิดฉากยุคสมัยแห่งความสำเร็จของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่แท้จริง

 

การจากไปของ ซิกิ เบกิริสไตน์ ส่งผลกับ เป๊ป กวาร์ดิโอลา อย่างไร?

 

 

อันที่จริงแล้ว เบกิริสไตน์ตั้งใจวางมือจากวงการฟุตบอลตั้งแต่ 5 ปีก่อน ในตอนที่เขาอายุ 55 ปี แต่สโมสรขอให้เขาอยู่ต่อ ประกอบกับการไม่มีช่องว่างให้เขาวางมือจากทีม ทำให้เขาตัดสินใจเลื่อนมาเกษียณตัวเองในวัย 60 ปีแทน

 

อย่างไรก็ตาม เบกิริสไตน์ยังยืนยันว่าเขาจะไม่วางมือจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในทันที แต่จะวางมือหลังจบฤดูกาลนี้ เพื่อให้ทีมมีเวลาเฟ้นหาตัวตายตัวแทนของเขา 

 

แต่ถึงอย่างนั้น การแยกทางจากทีมเรือใบสีฟ้าในคราวนี้ของเบกิริสไตน์ก็ถูกเชื่อมโยงว่าเขาต้องการถอยห่างจากคดีที่พรีเมียร์ลีกยื่นฟ้องแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 115 คดี อยู่ดี แม้ว่า เดวิด ออร์นสตีน นักข่าวชื่อดังของ The Athletic จะออกมายืนยันอีกเสียงว่า อันที่จริงเขามีแผนรีไทร์ตั้งแต่เมื่อ 5 ปีก่อนแล้วก็ตาม

 

อีกประเด็นที่น่าสนใจคือความสนิทสนมระหว่างเบกิริสไตน์กับกวาร์ดิโอลา ทั้งการที่พวกเขาเคยร่วมงานกันที่บาร์เซโลนา และยังเป็นคนดึงกวาร์ดิโอลามาที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้

 

เดิมมีรายงานว่าทั้งกวาร์ดิโอลาและเบกิริสไตน์จะออกจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ พร้อมกันในปี 2025 และในกรณีของผู้อำนวยการกีฬาคนเก่งก็ได้รับการยืนยันแล้วว่าเป็นเรื่องจริง

 

เบกิริสไตน์ยืนยันว่าเขาต้องการใช้เวลากับครอบครัวมากขึ้น และพักผ่อนจากงานที่ทำให้เขามีความเครียดมากกว่าปกติมาตลอด 13 ปี นับตั้งแต่เขาเข้ามารับงานในปี 2012

 

แต่ทางฝั่งกวาร์ดิโอลานั้นยังคลุมเครือ 

 

ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ก่อนที่ฤดูกาลใหม่พรีเมียร์ลีกจะเปิดฉาก เจ้าตัวเพิ่งออกปากว่าพร้อมพูดคุยกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพื่อขยายสัญญาฉบับใหม่ออกไป แม้หลายฝ่ายจะเชื่อว่าหากมีการขยายสัญญาจริง สัญญาดังกล่าวจะมีอายุไม่เกิน 2 ปีก็ตาม

 

แต่จนถึงตอนนี้ การขยายสัญญาของกวาร์ดิโอลายังไม่คืบหน้า จนแฟนๆ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บางส่วนเริ่มกังวล โดยในเกมกับฟูแลมก่อนเบรกทีมชาติที่ผ่านมา มีข้อความเป็นภาษากาตาลันว่า “Pep Guardiola volem que et quedis” ซึ่งแปลว่า “เป๊ป กวาร์ดิโอลา เราอยากให้คุณอยู่ต่อ” ปรากฏขึ้นที่อัฒจันทร์ฝั่งใต้ก่อนเกม

 

โดยหลังเกม กวาร์ดิโอลาก็ถูกถามเรื่องป้ายดังกล่าว แล้วเขาก็ตอบว่า “ผมจะพูดอะไรได้ล่ะ ก็ขอบคุณมาก ผมตกหลุมรักที่นี่ตั้งแต่วันแรกที่ผมมาถึง แต่สิ่งที่จะเกิดมันก็ต้องเกิด”

 

แน่นอนว่าเป็นคำตอบที่คลุมเครือ และเมื่อเบกิริสไตน์ก้าวออกจากทีมไป ก็มีหลายคนคาดว่า ‘บางทีจุดจบอาจใกล้เข้ามาแล้วก็ได้’

 

ผลกระทบกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้?

 

 

หากไม่นับเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกวาร์ดิโอลาที่ยังไม่ชัดเจนว่าผลกระทบจากการก้าวออกไปของเบกิริสไตน์จะมหาศาลแค่ไหน การที่เขาก้าวลงจากตำแหน่งที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ยังเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของสโมสรอยู่ดี

 

ในยุคที่ผ่านมา แฟนบอลย่อมได้ยินชื่อ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ร่วมกับ เดวิด กิลล์ อย่างคุ้นหู และนั่นเป็นยุคที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่

 

ไม่ต่างกันนักกับ เป๊ป กวาร์ดิโอลา และ ซิกิ เบกิริสไตน์ เพราะทั้งคู่ทำงานกันจนเข้าขารู้ใจ ดังนั้นการไม่มีผู้อำนวยการฟุตบอลคู่ใจ อาจนำมาซึ่งความติดขัด และอาจต้องการการปรับจูนในระยะเวลาหนึ่งเช่นกัน (ในกรณีที่กวาร์ดิโอลาเลือกจะไปต่อกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้)

 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พอจะเบาใจได้ว่าพวกเขาจะไม่ตกต่ำจนย่ำแย่เมื่อเบกิริสไตน์ (หรืออาจรวมถึงกวาร์ดิโอลา) จากไป คือการที่ทั้งคู่สร้างสิ่งต่างๆ ไว้กับทีม โดยเฉพาะระบบเยาวชนที่แข็งแกร่ง ซึ่งคัดเอาเด็กๆ มากพรสวรรค์มาจากทั่วโลก ผ่านสโมสรที่สังกัดซิตี้ ฟุตบอล กรุ๊ป

 

ระบบเยาวชนของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นระบบที่วางรากฐานไว้เป็นอย่างดี และผลิตนักเตะฝีเท้ายอดเยี่ยมได้อย่างที่ ชีค มานซูร์ คาดหวังให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นบาร์เซโลนาแห่งใหม่

 

นักเตะที่ออกจากอะคาเดมีของพวกเขาหลายคนเป็นสตาร์ในปัจจุบัน เช่น ฟิล โฟเดน, โคล พาลเมอร์, จาดอน ซานโช, ไมเคิล โอลิเซ, เอริค การ์เซีย และอื่นๆ อีกมากมาย

 

อย่างไรก็ตาม แม้ระบบอะคาเดมีจะหายห่วง แต่ผู้อำนวยการฟุตบอลก็ยังเป็นตำแหน่งสำคัญที่ไม่ใช่จะเอาใครมานั่งก็ได้ และนั่นเป็นโจทย์ใหญ่ที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องอุดรอยรั่วหลังการก้าวออกไปของเบกิริสไตน์อยู่ดี 

 

คนที่มาแทนคือใคร?

 

 

รายงานหลายแห่งในอังกฤษระบุว่า อีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ ซิกิ เบกิริสไตน์ ตัดสินใจก้าวออกจากตำแหน่งหลังจบฤดูกาลนี้ เนื่องจากเขาต้องการมีส่วนร่วมกับการเลือกผู้อำนวยการฟุตบอลคนต่อไปของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยตัวเอง

 

ชื่อที่ปรากฏอยู่บนโต๊ะในตอนนี้ ตามรายงานมีอยู่ 3 คน ได้แก่ อันโดนี ซูบิซาร์เรตา อดีตเพื่อนร่วมทีมที่บาร์เซโลนาของเบกิริสไตน์ และยังเป็นอดีตผู้อำนวยการฟุตบอลของบาร์เซโลนาไม่ต่างกัน

 

ปัจจุบันซูบิซาร์เรตาทำงานในตำแหน่งเดียวกันอยู่ที่เอฟซี ปอร์โต และทีมของเขาก็กำลังขับเคี่ยวกับสปอร์ติง ลิสบอน อยู่ในอันดับหัวตาราง

 

ตัวเลือกต่อไปก็คือ ฮูโก เวียนา ผู้อำนวยการฟุตบอลของสปอร์ติง ลิสบอน ซึ่งคนนี้จะแตกต่างกับซูบิซาร์เรตาและเบกิริสไตน์อย่างชัดเจน ทั้งการเป็นนักฟุตบอลโปรตุกีส เคยทำงานในซาอุดีอาระเบีย และมีอายุเพียง 41 ปีเท่านั้น

 

ขณะที่ตัวเลือกสุดท้ายคือ กิเก การ์เซล ผู้อำนวยการฟุตบอลฝีมือดีจากจีโรนา ซึ่งเชื่อกันว่ามีโอกาสสูงที่สุดที่เขาจะมารับงานต่อจากเบกิริสไตน์

 

สาเหตุที่ชื่อของการ์เซลนำโด่งเหนือกว่าคนอื่น คือความสำเร็จในการบริหารงานทีมชั้นรองอย่างจีโรนา จนสามารถไปเล่นในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

 

นอกจากนี้ เมื่อมองถึงความสัมพันธ์ระหว่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ จีโรนา ที่ซิตี้ ฟุตบอล กรุ๊ป ถือหุ้นสโมสรจากสเปนอยู่ ก็มีความเป็นไปได้ยิ่งขึ้นที่ชื่อของการ์เซลจะถูกย้ายมาอยู่ในถิ่นเอติฮัด สเตเดียม ต่อจากเบกิริสไตน์

 

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าใครจะเข้ามาแทนที่ ซิกิ เบกิริสไตน์ ที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ตาม เขาคนนั้นย่อมมีงานหนักรออยู่ นั่นคือการรั้ง เป๊ป กวาร์ดิโอลา ให้อยู่กับทีมต่อไปให้ได้

 

และนั่นอาจเป็นหลักประกันสำคัญว่า ความเปลี่ยนแปลงที่มาถึงทีมเรือใบสีฟ้าจะไม่รุนแรงและโหดร้ายมากเกินไป…

 

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising