×

2 ตำรวจเอี่ยวอุ้มรีดทรัพย์ 140 ล้านบาท เข้ารายงานตัว ยืนยันไม่หนักใจ ทำตามคำสั่ง รอง ผบ.ตร. ย้ำอะไรเป็นความจริงก็ต้องว่ากันตามความจริง

โดย THE STANDARD TEAM
18.06.2023
  • LOADING...
อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์

วันนี้ (18 มิถุนายน) อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ พร้อมด้วยทนายความ และ พ.ต.อ. ดำรงศักดิ์ อ่อนตา รองผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 กับ พ.ต.ท. ปฐมพงศ์ มีอยู่ สารวัตรกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 (สอท.2) ที่ก่อนหน้านี้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาระบุว่า ร่วมกันเรียกทรัพย์ 140 ล้านบาทจากผู้เสียหาย เข้ารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธร (สภ.) คูคต โดยมี พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้ารับมอบตัว

 

โดยเมื่อทั้งสองคนเดินทางมาถึง ได้กล่าวยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีการตบทรัพย์ผู้เสียหาย เนื่องจากได้ไปทำหน้าที่เก็บหลักฐานที่เกี่ยวกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ในบ้านที่เกิดเหตุ 

 

ด้าน พ.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ตนรู้ข้อมูลตามที่มีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อมวลชน วันนี้จึงเดินทางมาเพื่อดูข้อเท็จจริงทั้งหมดก่อน ซึ่งตนยังไม่รู้ว่าถูกกล่าวหาอะไรบ้าง ยืนยันว่าตัวเองทำหน้าที่ถูกต้องตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย และยอมรับว่าตัวเองได้เจอกับเป้ ผู้เสียหายในวันตรวจค้นจริง

 

ด้าน พ.ต.ท. ปฐมพงษ์ กล่าวว่า ตนไม่มีความกังวลหรือหนักใจอะไร เพราะทำตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา และวันที่เกิดเหตุได้เดินทางไปพร้อมกับรองผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 ซึ่งเป็นการไปปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ

 

ด้าน พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ความคืบหน้าล่าสุดได้ขอศาลอนุมัติหมายจับพลเรือนที่เกี่ยวข้องแล้ว 3 ราย และแจ้งดำเนินคดีใน 2 ข้อหา คือ ร่วมกันติดสินบนเจ้าพนักงานและร่วมกันในการกระทำการเอาทรัพย์ผู้อื่นไป โดยมี 2 รายหลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้านตั้งแต่วันเกิดเหตุแล้ว และทราบว่าออกนอกประเทศอย่างถูกต้อง ขณะนี้กำลังประสานประเทศปลายทางนำตัวกลับมาดำเนินคดี 

 

ส่วนตำรวจที่เกี่ยวข้องในกรณีดังกล่าวมีประมาณ 11-12 นาย ไม่มีพฤติกรรมหลบหนี จึงไม่ได้ขอศาลอนุมัติหมายจับ แต่จะประสานผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดทยอยให้พามามอบตัวตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (19 มิถุนายน) โดยหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการรีดทรัพย์อยู่ในระหว่างการรวบรวม รวมทั้งตรวจสอบเส้นทางการเงินกับธนาคารและข้อมูลทางโทรศัพท์ ซึ่งจะไล่ทั้งหมดและตรวจสอบย้อนหลังด้วยว่ามีความเชื่อมโยงกับตำรวจกลุ่มไหนอีกบ้าง 

 

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตำรวจ 2 นายที่มาพบพนักงานสอบสวนวันนี้ จะแจ้ง 4 ข้อหา ได้แก่ เรียกรับผลประโยชน์, ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ, ข่มขืนใจผู้อื่นให้ได้ทรัพย์สิน และกักขังหน่วงเหนี่ยว ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาสามารถใช้ตำแหน่งในการประกันตัวได้ 

 

ส่วนการดำเนินการทางวินัยจะพิจารณาจากพยานหลักฐาน ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติว่าจะพิจารณาตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงหรือให้ออกจากราชการไว้ก่อน

 

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า เมื่อวานนี้ (17 มิถุนายน) ตนเองได้เจอ พล.ต.ต. กัมพล ลีลาประภากรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ได้พูดคุยกัน เพราะส่วนตัวก็เคยทำงานร่วมกัน เคยสนิทสนมกัน โดยตนแนะนำไปว่า อะไรเป็นความจริงก็ต้องว่ากันตามความจริง พร้อมระบุว่า ส่วนตัวไม่ได้บาดหมางหรือเป็นศัตรูต่อกัน แต่ทำตามหน้าที่ ขอให้ผู้การฯ เตรียมข้อมูลและหลักฐานมาให้ข้อเท็จจริง ซึ่ง พล.ต.ต. กัมพล ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา 

 

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวเพิ่มว่า คดีนี้เป็นคดีแรกในไทยที่จะใช้ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ เนื่องจากตามแนวทางปฏิบัติ เจ้าหน้าที่จะต้องมีการบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่แรก แต่ครั้งนี้ไม่มีการดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าว มีเพียงการเข้ามาทำบันทึกจับกุมตามขั้นตอนเท่านั้น อีกทั้งยังไม่มีการแจ้งให้พนักงานอัยการและพนักงานฝ่ายปกครองในท้องที่ที่มีการควบคุมตัวทราบ

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X