Reuters เผยข้อมูลจากงานวิจัยภายในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชื่อดังอย่าง Twitter ซึ่งพบว่าแพลตฟอร์มชื่อดังนั้นกำลังล้มเหลวในการคง Active Users ที่สำคัญกับธุรกิจให้มีส่วนร่วมบนแพลตฟอร์ม ซึ่งเป็นความท้าทายหลักของบอสใหญ่จากบริษัท Tesla และ SpaceX อย่าง ‘อีลอน มัสก์’ ที่กำลังเป็นว่าที่ CEO ของ Twitter คนล่าสุด หลังจากปิดดีลเข้าซื้อกิจการมูลค่า 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์
‘Heavy Tweeter’ หรือคนที่ใช้ Twitter อย่างน้อย 6 หรือ 7 วันต่อสัปดาห์ และทวีต 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งตอนนี้คิดเป็นเพียง 10% ของผู้ใช้โดยรวมต่อเดือนบน Twitter แต่พวกเขาสามารถสร้างรายได้รวมจากทั่วโลกได้มากกว่าครึ่ง และ 90% ของทวีตล้วนมาจากพวกเขาทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม Heavy Tweeter เริ่มลดลงเรื่อยๆ นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด ซึ่งนักวิจัยจาก Twitter ได้จัดทำวิจัยชื่อ ‘นักทวีตหายไปไหนกันหมด’ ขึ้นมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ‘อีลอน มัสก์’ วางแผนจะหั่นพนักงาน Twitter ออก 75% เพื่อ ‘ลดต้นทุน’ แต่นักวิเคราะห์ชี้ถึงผลกระทบร้ายแรงจากการทำให้ผู้ใช้เสี่ยง ‘ถูกแฮ็ก’ มากขึ้น
- หุ้น Twitter จ่อ ‘ถูกแขวน’ ชั่วคราว 28 ต.ค. นี้ ก่อน ‘อีลอน มัสก์’ ปิดดีลซื้อหุ้น
- หุ้น Twitter พุ่ง 22% หลัง อีลอน มัสก์ กลับลำ 180 องศา ยอมเข้าซื้อราคาเดิม นักวิเคราะห์มอง ที่ยอมเพราะคาดว่าแพ้ในการฟ้องศาลแน่ๆ
งานวิจัยดังกล่าวพบว่าเนื้อหาที่เกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซี และเนื้อหาที่เป็น ‘NSFW’ หรือคอนเทนต์ลามกและภาพเปลือยนั้นเป็นหัวข้อที่เติบโตสูงสุดในหมู่ Heavy Tweeter ที่พูดภาษาอังกฤษ ขณะเดียวกันความสนใจในหัวข้อข่าว กีฬา และความบันเทิง ก็กำลังลดลงในหมู่ผู้ใช้เหล่านั้น ทั้งที่เป็นสิ่งที่นักโฆษณาต้องการมากที่สุด
“ทั้งนี้ในไตรมาสที่ 4 นั้น Twitter ทำเงินจากตลาดสหรัฐฯ ที่เดียวได้มากกว่าตลาดอื่นๆ รวมกันเสียอีก และโฆษณาต่างๆ ในสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะกำหนดกลุ่มเป้าหมายเป็นคนที่พูดภาษาอังกฤษอีกด้วย” จัสมิน เอ็นเบิร์ก นักวิเคราะห์จาก Insider Intelligence ระบุ
การศึกษาของ Twitter นั้นระบุจำนวนของ Heavy Tweeter ที่พูดภาษาอังกฤษและแสดงความสนใจเกี่ยวกับหัวข้อหนึ่ง โดยพิจารณาจากบัญชีที่พวกเขาติดตาม และจำนวนผู้ใช้ที่เปลี่ยนไปในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
ข้อมูลงานวิจัยภายในยังบอกอีกด้วยว่า Twitter ตรวจสอบเทรนด์ที่ส่อให้เกิดความวุ่นวายที่อาจถูกบดบังจากการเติบโตของผู้ใช้รายวันโดยรวม และทำความเข้าใจถึงการลดลงของ Heavy Tweeter อย่างไรก็ตาม การศึกษาไม่ได้ให้ข้อสรุปเฉพาะเจาะจงว่าทำไมผู้ใช้ Heavy Tweeter บนแพลตฟอร์มจึงลดลง
โฆษกของ Twitter ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า “เราวิจัยเกี่ยวกับเทรนด์มากมายเป็นประจำอยู่แล้ว ซึ่งมันมีพื้นฐานจากสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนโลก และผู้ใช้โดยรวมของเรานั้นเติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยแตะ 238 ล้าน mDAU (ผู้ใช้รายวันที่สามารถมองเห็นโฆษณาได้) ในไตรมาสที่ 2 ปีนี้”
อ้างอิง: