ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงทางตอนใต้ของตุรกีและซีเรียพุ่งทะลุ 7,800 รายแล้ว ขณะที่หน่วยกู้ภัยกำลังทำงานแข่งกับเวลา เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตออกจากซากอาคารที่พังถล่ม ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเย็นจัด ซึ่งทำให้ปฏิบัติการช่วยเหลือนั้นเป็นไปอย่างยากลำบาก รวมถึงกระทบต่อโอกาสรอดชีวิตของผู้ประสบภัยด้วย
โดยเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงแมกนิจูด 7.8 ขึ้นที่ตุรกี ถือเป็นหนึ่งในเหตุแผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดในรอบกว่า 100 ปีที่ภูมิภาคนี้เคยเผชิญมา ขณะที่แรงสั่นสะเทือนรับรู้ได้ถึงเลบานอน, ซีเรีย, ไซปรัส และอิสราเอล ก่อนที่จะตามมาด้วยแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ถึงแมกนิจูด 7.5 อีกระลอก รวมถึงอาฟเตอร์ช็อกอีกอย่างน้อย 100 ครั้ง ซึ่งมีอย่างน้อย 3 ครั้งที่เป็นแผ่นดินไหวแมกนิจูด 6.0 ขึ้นไป
ฟูอัต อ็อกเตย์ รองประธานาธิบดีตุรกี เปิดเผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตในตุรกีเพิ่มขึ้นเป็น 5,894 ราย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่ที่มากกว่า 34,000 ราย โดยมีอาคารที่ได้รับความเสียหาย 5,775 หลัง ขณะที่ในซีเรียยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อย่างน้อย 1,932 ราย
ภายหลังเกิดเหตุ ประธานาธิบดี เรเจป ไตยิป แอร์โดอัน ผู้นำตุรกี ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินใน 10 จังหวัด พร้อมส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยกว่า 12,000 นายออกปฏิบัติการ รวมถึงทหารอีก 9,000 นาย และได้รับความช่วยเหลืออีกจากกว่า 70 ประเทศ แต่ถึงเช่นนั้นประชาชนในหลายเมืองที่ได้รับผลกระทบหนักจากแผ่นดินไหวต่างแสดงความโกรธแค้นต่อรัฐบาล รวมถึงความสิ้นหวังในชีวิต โดยพวกเขามองว่ารัฐบาลตอบสนองต่อเหตุการณ์ล่าช้าเกินไป อีกทั้งทรัพยากรช่วยเหลือก็ไม่เพียงพอด้วย โดยเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้คร่าชีวิตชาวตุรกีไปมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1999
อาคารนับพันหลังพังถล่มลงมา รวมถึงโรงพยาบาล โรงเรียน และอพาร์ตเมนต์ ทำให้ประชาชนหลายหมื่นรายได้รับบาดเจ็บ และมีจำนวนนับไม่ถ้วนที่ต้องไร้ที่อยู่อาศัยทั้งในตุรกีและทางตอนเหนือของซีเรีย ขณะที่การเข้าถึงพื้นที่ประสบภัยในบางจุดนั้นเป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะถนนหลายสายพังลงจากแรงสั่นสะเทือน รวมถึงสภาพอากาศที่ย่ำแย่ มีหิมะตกหนัก รวมถึงปัญหาการขาดแคลนทรัพยากรและเครื่องจักรหนักในการรื้อซากอาคาร ขณะบางพื้นที่นั้นไม่มีเชื้อเพลิงและไฟฟ้าใช้ จนชาวบ้านหลายคนเลือกใช้มือเปล่าขุดซากอาคารด้วยตัวเองด้วยความหวังว่าจะมีโอกาสเจอผู้รอดชีวิต
ส่วนในซีเรียนั้นสถานการณ์เรียกได้ว่าน่าเป็นห่วง เนื่องจากซีเรียได้รับผลกระทบจากวิกฤตด้านมนุษยธรรมอยู่ก่อนแล้วหลังจากเกิดสงครามกลางเมืองนานเกือบ 12 ปี โดยเหตุการณ์วานนี้นอกจากจะทำให้พวกเขาต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก ซึ่งสร้างความเจ็บปวดใจอย่างแสนสาหัสแล้ว ผู้รอดชีวิตจากแผ่นดินไหวหลายคนต้องนอนตามพื้นถนนท่ามกลางอากาศที่เย็นเฉียบ เพราะความช่วยเหลือยังมาไม่ถึง
รายงานจากสำนักข่าว CNN ระบุว่า มีประชาชนมากกว่า 4 ล้านรายในภูมิภาคที่เกิดแผ่นดินไหวในซีเรียที่ต้องพึ่งพาความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม โดยส่วนมากเป็นผู้หญิงและเด็ก นอกเหนือจากหายนะที่เกิดจากแผ่นดินไหวแล้ว ชาวซีเรียจำนวนมากยังต้องต่อสู้กับวิกฤตการแพร่ระบาดของอหิวาตกโรคท่ามกลางฤดูหนาวอันเลวร้ายที่มีทั้งหิมะและฝนตกหนัก ขณะที่ความพยายามในการค้นหาและช่วยเหลือผู้รอดชีวิตก็เป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะประเทศยากจนอย่างซีเรียขาดแคลนอุปกรณ์และเครื่องจักรหนักที่จะช่วยเคลียร์ซากปรักหักพัง
ภาพ: Tunahan Turhan / SOPA Images / LightRocket via Getty Images
อ้างอิง:
