×

บอสทูเคิล vs. บอสเป๊ป ใครจะได้เป็นบอสทีมชาติอังกฤษ?

15.10.2024
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

  • มีการประกาศรับสมัครงานใน LinkedIn แพลตฟอร์มสำหรับคนทำงาน โดยมีการระบุคุณสมบัติไว้ว่า ‘มีประสบการณ์สูงเกี่ยวกับฟุตบอลอังกฤษ มีผลงานที่ยอดเยี่ยมในพรีเมียร์ลีกหรือในรายการแข่งขันระดับนานาชาติ’
  • ทูเคิลยังมี ‘หลังบ้าน’ ที่ได้รับการยอมรับในวงการอย่าง แอนโธนี แบร์รี ซึ่งเป็นผลผลิตจากโปรแกรม Pro License ของเอฟเอ และมีประสบการณ์การทำงานในระดับนานาชาติพอสมควร จากการเคยเป็นมือขวาของ โรแบร์โต มาร์ติเนซ ในทีมชาติเบลเยียม รวมถึงยังเคยเป็นผู้ช่วยโค้ชทีมชาติไอร์แลนด์ด้วย
  • เป๊ปเองก็ให้สัมภาษณ์กับรายการ Che Tempo Che Fa ในอิตาลี เกี่ยวกับเรื่องอนาคตของตัวเองว่า “ไปจากซิตี้? มันไม่จริงหรอก ผมยังไม่ได้ตัดสินใจเลย และเรื่องที่บอกว่าผมจะไปเป็นผู้จัดการทีมชาติอังกฤษคนใหม่ก็ยิ่งไม่จริงเข้าไปใหญ่ เอาเป็นว่าถ้าผมตัดสินใจแล้วผมก็จะบอก แต่ผมยังไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

กระแสข่าวตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติอังกฤษกลับมาเป็นประเด็นร้อนแรงแบบที่ไม่มีใครคาดฝัน หลังจากที่มีรายงานข่าวว่าสมาคมฟุตบอล (FA) ได้ติดต่อทาบทามตัวเลือกที่ไม่มีใครคาดคิดอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอลา ว่าสนใจจะรับงานนี้หรือไม่

 

โดยในสัปดาห์ที่แล้วก็มีกระแสข่าวเชื่อมโยงกับ โธมัส ทูเคิล โค้ชฝีมือดีที่ได้รับการยอมรับอย่างสูงในวงการฟุตบอล

 

คำถามที่น่าสนุกคือระหว่างสองคนนี้จะมีคนที่สนใจรับตำแหน่งนี้หรือไม่? และถ้าให้ติ๊งต่างกันเองก่อน คิดว่าใครคือคนที่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้มากกว่ากัน?

 

 

เพราะนี่คืองานที่ยากที่สุดในอังกฤษ

 

ในวงการฟุตบอลเมืองผู้ดีมีคำกล่าวกันว่า ในประเทศอังกฤษงานที่ยากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 รองจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศคือตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติ

 

เรื่องนี้เป็นเพราะตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติอังกฤษเป็นงานที่แบกรับความคาดหวังมหาศาล ชนิดที่ไม่รู้จะหาคำใดมาอธิบายได้อย่างเหมาะสมที่สุด

 

ไม่เพียงต้องทำตามความคาดหวังของมหาชนลูกหนังชาวอังกฤษแล้ว บอสใหญ่ทีม ‘สิงโตคำราม’ ต้องต่อกร (และบางครั้งต่อล้อต่อเถียง) กับสื่อมวลชนเมืองผู้ดีที่พร้อมทั้งเชิดชูใครก็ได้ให้เป็นฮีโร่และทำลายคนคนเดียวกันได้เสมอหากไม่เป็นที่ถูกใจ

 

และสำคัญที่สุดคือไม่ว่าจะทำอะไรก็ไม่เคยมีวันถูกใจ (ทั้งหมด) ซึ่งนั่นคือปัญหา

 

นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ผู้จัดการทีมระดับยอดฝีมือทั้งหลายต้องเอาชื่อมาทิ้งไว้กับตำแหน่งนี้ ไม่ว่าจะเป็น เกรแฮม เทย์เลอร์ ผู้ล่วงลับ ที่เคยถูกเรียกว่าเป็น ‘หัวผักกาด’, ฟาบิโอ คาเปลโล ปรมาจารย์ลูกหนังชาวอิตาลี และล่าสุด แกเร็ธ เซาท์เกต ที่แทบจะแตกสลายหลังจบภารกิจในศึกยูโร 2024 ที่ประเทศเยอรมนี เมื่อกลางปีที่ผ่านมา

 

เขาว่าขึ้นหลังเสือลงยากแล้ว

 

แต่ถ้าได้ลองขึ้นหลังสิงโต ช้าหรือเร็วก็โดนถีบลงมาอยู่ดี

 

 

ไม่โอและไม่ท็อป

 

อย่างไรก็ดี ภายหลังการอำลาตำแหน่งของเซาท์เกต – ซึ่งในความเป็นจริงเป็นผู้จัดการทีมชาติอังกฤษที่ประสบความสำเร็จสูงสุด เพราะสามารถพาทีมเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลยูโรได้ถึง 2 สมัย และเข้ารอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลกได้อีกหนึ่งสมัย – ทางด้านเอฟเอประสบปัญหาอย่างมากในการเลือกคนมาทำหน้าที่แทน

 

อย่างแรกที่บอกไปแล้วคืองานนี้มันยาก ความคาดหวังสูงลิบ เพราะทางเดียวที่จะทำให้ทุกคนพอใจได้คือการพาทีมชาติอังกฤษเป็นแชมป์โลก (หรือแชมป์ยูโรก็ได้) ให้ทุกคนได้ร้องเพลง Three Lions (It’s Coming Home) กันหน่อย

 

และจากปัญหาอย่างแรก ดูเหมือนความยากของงานทำให้เกณฑ์ในการคัดเลือกคนทำงานยากขึ้นตามไปด้วย

 

นั่นทำให้ ลี คาร์สลีย์ ซึ่งรักษาการตำแหน่งในเวลานี้บอกกับทุกคนแบบอ้อมๆ ว่าเขาคงไม่พร้อมสำหรับการรับตำแหน่งนี้ “ทีมชาติอังกฤษสมควรที่จะได้คนที่เก่งกาจและประสบความสำเร็จคว้าแชมป์มาคุมทีม”

 

ความยากต่อมาคือในอังกฤษเองเวลานี้เจอปัญหาเดียวกับหลายๆ ชาติ คือขาดผู้จัดการทีมฝีมือดีที่มีบารมีหรือประสบความสำเร็จมากพอสำหรับตำแหน่งนี้

 

นอกจากคาร์สลีย์แล้ว ผู้จัดการทีมอย่าง เกรแฮม พอตเตอร์ หรือ เอ็ดดี ฮาว ถึงจะเป็นโค้ชฝีมือใช้ได้แต่ก็ไม่เคยประสบความสำเร็จมาก่อน

 

ดังนั้นถึงเอฟเอจะอยากได้ผู้จัดการคนใหม่เป็นชาวอังกฤษแท้ๆ แต่เวลานี้ดูน่าจะไม่มีตัวเลือกที่เหมาะสม

 

นั่นหมายถึงการเปิดประตูโอกาสให้ผู้จัดการทีมชาวต่างประเทศได้มารับตำแหน่งอีกครั้ง

 

มีการประกาศรับสมัครงานใน LinkedIn แพลตฟอร์มสำหรับคนทำงาน โดยมีการระบุคุณสมบัติไว้ว่า ‘มีประสบการณ์สูงเกี่ยวกับฟุตบอลอังกฤษ มีผลงานที่ยอดเยี่ยมในพรีเมียร์ลีกหรือในรายการแข่งขันระดับนานาชาติ’

 

รวมถึงอีกเรื่อง ‘รับมือกับความกดดันของการเป็นบุคคลสาธารณะที่มีชื่อเสียงได้’

 

 

บอสทูเคิล vs. บอสเป๊ป

 

ทีนี้มาถึงประเด็นที่คุยกันได้สนุกแล้ว เพราะ 2 ชื่อที่มีการหยิบยกขึ้นมาตอนนี้ ถือว่าเป็นชื่อที่ทำให้ ‘ว้าว’ ได้พอสมควร

 

คนแรกโผล่มาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วคือทูเคิล หนึ่งในตัวเลือกระดับท็อปของวงการที่ยังว่างงานอยู่หลังจากที่แยกทางกับบาเยิร์น มิวนิก และยังไม่ตกลงปลงใจเลือกต้นสังกัดใหม่ที่ไหน แม้จะมีข่าวกับหลายสโมสร ซึ่งรวมถึงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดด้วย

 

สำหรับทูเคิล ด้วยชื่อชั้นและความสามารถถือว่าดีเพียงพอสำหรับตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติอังกฤษอย่างแน่นอน

 

ในเรื่องคุณสมบัติ กุนซือชาวเยอรมันคนนี้มีประสบการณ์ในพรีเมียร์ลีกมาแล้วกับเชลซี ประสบความสำเร็จในการพาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกมาครองได้ และมีความคุ้นเคยกับ แฮร์รี เคน เป็นอย่างดีจากช่วงเวลาที่ร่วมงานกันในทีมเสือใต้

 

ทูเคิลยังมี ‘หลังบ้าน’ ที่ได้รับการยอมรับในวงการอย่าง แอนโธนี แบร์รี ซึ่งเป็นผลผลิตจากโปรแกรม Pro License ของเอฟเอ และมีประสบการณ์การทำงานในระดับนานาชาติพอสมควร จากการเคยเป็นมือขวาของ โรแบร์โต มาร์ติเนซ ในทีมชาติเบลเยียม รวมถึงยังเคยเป็นผู้ช่วยโค้ชทีมชาติไอร์แลนด์ด้วย

 

ที่สำคัญคือเขาว่างงาน พร้อมที่จะรับตำแหน่งทันที

 

แต่ไม่ว่าทูเคิลจะยอดเยี่ยมแค่ไหน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเมื่อชื่อของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา โผล่ขึ้นมาย่อมเกิดเสียงฮือฮาขึ้นมาทันที

 

ไม่ต้องอธิบายความยืดยาว นี่คือโค้ชฟุตบอลที่เก่งที่สุดในโลกในช่วงเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา ถ้วยแชมป์มากมายนับไม่ถ้วน ไม่นับการเป็นผู้เริ่มต้นการปฏิวัติเกมฟุตบอลและสร้างนวัตกรรมลูกหนังใหม่ๆ ที่ทำให้ทุกคนทึ่งได้เสมอ

 

เป๊ปยังสอบผ่านคุณสมบัติสำคัญที่เอฟเอต้องการด้วยในเรื่องของการ ‘พัฒนาผู้เล่นทีมชาติอังกฤษ’ เพราะในทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เขาคือผู้ประคบประหงม ฟิล โฟเดน และแจ้งเกิด ริโก ลูอิส สองดาวรุ่งที่เป็นผลผลิตจากทีมเยาวชน ให้กลายเป็นกำลังหลักของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เต็มไปด้วยซูเปอร์สตาร์ลูกหนังระดับโลกได้

 

และความจริงเราควรรวมถึง ​โคล พาลเมซโอร์ นักเตะพรสวรรค์ที่โดดเด่นที่สุดของอังกฤษในเวลานี้ ก็อยู่ในทีมเยาวชนของซิตี้เหมือนกัน

 

ปัญหาใหญ่คือเป๊ปยังติดสัญญากับแมนฯ ซิตี้ จนถึงจบฤดูกาลนี้ ไม่พร้อมจะรับตำแหน่งทันที แต่ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าเขาจะอยู่กับซิตี้ต่อไปหรือไม่ โดยเฉพาะหลัง ซิกิ เบกิริสไตน์ ผู้อำนวยการสโมสรคนสนิทเตรียมอำลาทีมหลังจบฤดูกาลนี้

 

 

แล้วใครจะได้เป็นบอสคนใหม่?

 

หลังมีรายงานข่าวจาก The Times ว่าเอฟเอได้ลองทาบทามเป๊ป (ซึ่งเริ่มคุยกันมาตั้งแต่ต้นฤดูกาลที่ผ่านมาแล้ว) และจะมีการตัดสินใจภายในไม่กี่สัปดาห์จากนี้

 

ด้าน Telegraph รายงานข่าวสวนทางกัน โดยบอกว่าเป๊ปจะขยายสัญญากับซิตี้ต่อไปอีก 1 ปี เพื่อทำงานต่อไปก่อน

 

และเป๊ปเองก็ให้สัมภาษณ์กับรายการ Che Tempo Che Fa ในอิตาลี เกี่ยวกับเรื่องอนาคตของตัวเองว่า “ไปจากซิตี้? มันไม่จริงหรอก ผมยังไม่ได้ตัดสินใจเลย และเรื่องที่บอกว่าผมจะไปเป็นผู้จัดการทีมชาติอังกฤษคนใหม่ก็ยิ่งไม่จริงเข้าไปใหญ่ เอาเป็นว่าถ้าผมตัดสินใจแล้วผมก็จะบอก แต่ผมยังไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

 

ประเมินจากจุดนี้แล้วความเป็นไปได้คือเป๊ปจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเอฟเอ เพียงแต่ยังไม่มีความชัดเจน และดูเหมือนจังหวะเวลาอาจจะยังไม่เหมาะสมเท่าไรนัก เพราะต่อให้รับตำแหน่งได้ก็ต้องรออีกหลายเดือนกว่าที่จะพร้อมทำงานจริง

 

แต่ถ้าเป๊ปจะรับงานจริง ซึ่ง The Times ระบุว่า ‘ไม่ได้ปิดประตูโอกาส’ การอดทนรอโดยให้มวยแทนอย่างคาร์สลีย์ทำงานไปก่อนในช่วงปีที่ไม่ได้มีโปรแกรมสำคัญอะไรมากมายนักก็น่าจะคุ้มค่ามากพอ

 

เพราะจะเป็นการจุดความหวังและกระแสของทีมชาติอังกฤษให้กลับมาสดใสอีกครั้ง

 

อย่างไรก็ดี ถ้าเป๊ปไม่พร้อมรับตำแหน่ง ทูเคิลไม่ใช่ตัวเลือกที่แย่เลยสำหรับตำแหน่งนี้ และเป็นที่น่าจับตามองเช่นกันว่าจะทำผลงานกับทีมสิงโตคำรามอย่างไรได้บ้าง เพราะงานในระดับทีมชาติกับสโมสรนั้นมีความแตกต่างกันมากพอสมควร

 

แต่สุดท้ายถ้าหากไม่มีใครรับตำแหน่งนี้เลย ก็มีความเป็นไปได้เช่นกันสำหรับมือรองอย่างคาร์สลีย์ที่จะได้ส้มหล่นรับตำแหน่งแทน ซึ่งสถานการณ์คล้ายกับในวันที่เซาท์เกตได้รับตำแหน่งโดยเริ่มขยับจากทีมชาติชุดเยาวชนขึ้นมาทำทีมชั่วคราว แล้วได้รับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในเวลาต่อมา

 

ปัญหาคือถ้าเป็นแบบนั้นทุกอย่างจะวนกลับไปในลูปเดิมอีกไหม? เพราะคาร์สลีย์ก็เพิ่งเจอวิจารณ์จากการทดลองจัดทีมเล่นในรายการเนชันส์ลีกนัดที่แพ้กรีซ ไม่นับเรื่องไม่ยอมร้องเพลง God Save the King ในเกมอุ่นเครื่องกับทีมชาติไอร์แลนด์

 

เพียงแต่ก็ไม่มีอะไรหรือใครที่รับประกันได้ว่าต่อให้ได้เป๊ปหรือทูเคิลมาเป็น ‘บอส’ พวกเขาจะประสบความสำเร็จหรือทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี

 

อย่างที่บอก งานนี้มันคือภารกิจสุดหินของโลกลูกหนัง

 

และไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็น เจมส์ บอนด์ ได้

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X