สถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนเริ่มมีสัญญาณเชิงบวก หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้ตกลงที่จะกลับมาเปิดทางการส่งออกแร่หายาก (Rare Earth) ที่มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมสหรัฐฯ อีกครั้ง พร้อมกันนี้ยังได้กำหนดวันเจรจาการค้ารอบใหม่ระหว่างทีมผู้แทนของทั้งสองประเทศในวันที่ 9 มิถุนายนนี้ ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร
ความคืบหน้าดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากผู้นำทั้งสองประเทศได้พูดคุยทางโทรศัพท์เป็นเวลานานถึง 90 นาที เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (5 มิถุนายน) ซึ่งเป็นการหารืออย่างเป็นทางการครั้งแรกนับตั้งแต่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งสมัยที่สอง โดยมีเป้าหมายเพื่อลดความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งในประเด็นกำแพงภาษี เทคโนโลยี และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่จีนจำกัดการส่งออกแร่หายากและแม่เหล็กซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และระบบป้องกันประเทศของสหรัฐฯ
เมื่อวันศุกร์ (6 มิถุนายน) ขณะอยู่บนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน เมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ตกลงที่จะกลับมาส่งออกแร่หายากและแม่เหล็กอีกครั้งหรือไม่ ทรัมป์ได้ตอบอย่างชัดเจนว่า “ใช่ เขาตกลง”
นอกจากนี้ ยังมีรายงานจาก Reuters ก่อนหน้านี้ว่า ทางการจีนได้อนุมัติใบอนุญาตส่งออกชั่วคราวให้กับซัพพลายเออร์แร่ที่สำคัญแก่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของสหรัฐฯ แล้ว ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งสัญญาณของการผ่อนคลายความตึงเครียด
ทีมเจรจาชุดใหญ่เตรียมเปิดโต๊ะถกที่ลอนดอน
ประธานาธิบดีทรัมป์ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียเมื่อวันศุกร์ โดยระบุว่า ทีมผู้แทนระดับสูงของสหรัฐฯ นำโดย สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, โฮเวิร์ด ลุทนิค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และเจมีสัน เกรียร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) มีกำหนดจะพบกับผู้แทนจากประเทศจีน ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ (9 มิถุนายน) โดยอ้างอิงถึงข้อตกลงทางการค้า (Trade Deal) พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า “การประชุมน่าจะดำเนินไปด้วยดี”
การกลับมาสู่โต๊ะเจรจาครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญ หลังจากที่การเจรจาค่อนข้างชะงักงันไปนับตั้งแต่การบรรลุ ‘ข้อตกลงเจนีวา’ เมื่อเดือนพฤษภาคม ซึ่งนำไปสู่การพักรบทางภาษีเป็นเวลา 90 วัน แต่หลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวหากันและกันว่าละเมิดข้อตกลง โดยสหรัฐฯ แสดงความกังวลเรื่องการขาดแคลนแร่หายาก ขณะที่จีนไม่พอใจอย่างยิ่งต่อมาตรการจำกัดการส่งออกชิป AI ของ Huawei Technologies Co. และการจำกัดวีซ่านักศึกษาจีน
แม้การต่อสายตรงระหว่างทรัมป์และสีจิ้นผิงจะสร้างความหวังในตลาดวอลล์สตรีทเกี่ยวกับการลดกำแพงภาษีระหว่างกัน แต่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนยังคงมีจำกัด เนื่องจากยังขาดรายละเอียดในประเด็นสำคัญและปัญหาที่ซับซ้อนซึ่งรออยู่บนโต๊ะเจรจา
คำถามสำคัญที่ยังคงอยู่คือ ทรัมป์ได้ ‘ยอม’ หรือ ‘ผ่อนปรน’ ในประเด็นใดเพื่อแลกกับการที่จีนยอมกลับมาส่งออกแร่หายาก โดยแถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศจีนระบุว่า ทรัมป์ได้กล่าวกับสี จิ้นผิง ว่านักศึกษาจีนยังคงได้รับการต้อนรับให้เข้ามาศึกษาในสหรัฐฯ ซึ่งต่อมาทรัมป์ก็ได้กล่าวยืนยันในทำนองเดียวกัน
นอกจากนี้ การที่รัฐมนตรีพาณิชย์ โฮเวิร์ด ลุทนิค ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อนโยบายด้านเทคโนโลยี เข้าร่วมการเจรจารอบใหม่นี้ อาจเป็นสัญญาณว่าทรัมป์อาจพร้อมที่จะพิจารณาทบทวนมาตรการจำกัดทางเทคโนโลยีบางอย่างที่คุกคามเป้าหมายการเติบโตในระยะยาวของจีน
สถานการณ์การค้าระหว่างสองมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกจึงกลับมาอยู่ในช่วงที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดอีกครั้ง โดยผลลัพธ์จากการเจรจาที่ลอนดอนในสัปดาห์หน้าจะเป็นตัวชี้วัดสำคัญถึงทิศทางความสัมพันธ์และเสถียรภาพของเศรษฐกิจโลกในระยะต่อไป
ภาพ: Dilara Irem Sancar / Anadolu via Getty Images
อ้างอิง: