ทรัมป์เล็งตั้งกำแพงภาษีกับสินค้าจีนครอบคลุมมูลค่า 3 แสนล้านเหรียญ แย้มจะตัดสินใจหลังการประชุม G20

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กำลังพิจารณาขยายกรอบกำแพงภาษีเพิ่มเติมกับสินค้าจีนครอบคลุมมูลค่า 3 แสนล้านเหรียญสหรัฐ และจะตัดสินใจขั้นสุดท้ายภายหลังการประชุมสุดยอดผู้นำ G20 ที่นครโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงสิ้นเดือนมิถุนายนนี้

ทั่วโลกต่างจับตาการประชุมนอกรอบระหว่างทรัมป์กับประธานาธิบดีสีจิ้นผิงบนเวทีประชุมซัมมิต G20 ระหว่างวันที่ 28-29 มิถุนายนนี้ ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่สองฝ่ายจะเจรจาเพื่อหาข้อยุติความขัดแย้งทางการค้า โดยเฉพาะประเด็นความมั่นคงทางไซเบอร์และปัญหาละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งหากผลลงเอยไม่เป็นที่พอใจ ก็มีโอกาสสูงที่ทรัมป์จะตัดสินใจขยายกรอบกำแพงภาษีกับจีนเพิ่มเติม

ก่อนหน้านี้ทรัมป์ได้ประกาศมาตรการภาษีอัตรา 25% กับสินค้าจีน 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ และได้สั่งการให้ โรเบิร์ต ไลต์ทิเซอร์ ผู้แทนการค้าระดับสูงของรัฐบาลเตรียมพิจารณามาตรการภาษีเพิ่มเติมกับสินค้าจีนอีก 3 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งหากบังคับใช้จริง จะครอบคลุมสินค้าเกือบทั้งหมดที่จีนส่งออกไปยังสหรัฐฯ

ล่าสุด ทรัมป์ประกาศที่ฝรั่งเศสเมื่อวานนี้ (6 มิ.ย.) ว่า “ผมจะตัดสินใจในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า หลังการประชุม G20 เสร็จสิ้นลง ผมจะประชุมหารือกับประธานาธิบดีสีจิ้นผิง และเราจะได้เห็นกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

ด้าน เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้แสดงความวิตกว่า ท้ายที่สุดจีนอาจยกเลิกการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ถึงแม้ว่าสองฝ่ายใกล้หาทางออกร่วมกันได้แล้วก็ตาม

ทิลเลอร์สันซึ่งถูกปลดออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว แสดงความเห็นในที่ประชุมเสวนาในเมืองฮิวสตันว่า อุปสรรคสำคัญในการเจรจาคือ คณะบริหารของทรัมป์ไม่มีเจตจำนงที่จะทำข้อตกลงตามเงื่อนไขที่จีนต้องการ ดังนั้นจึงมีโอกาสที่สองฝ่ายจะคว้าน้ำเหลว

“การเคารพซึ่งกันและกันและหาทางออกแบบวิน-วิน คือสิ่งที่พวกเขาต้องการได้ยิน แต่พวกเขายังไม่ได้ยินสิ่งเหล่านั้นเลย” ทิลเลอร์สันระบุ

ทั้งนี้ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการว่าทรัมป์จะหารือกับสีจิ้นผิงเมื่อใด ขณะที่คณะเจรจาของผู้แทนการค้าสองฝ่ายก็ไม่ได้ประชุมร่วมกันอีกเลยนับตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคม ด้วยเหตุนี้จึงเกิดความคลุมเครือว่าท้ายที่สุดสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงเพื่อยุติสงครามการค้ากันได้หรือไม่

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง: