×

ทำไมทรัมป์อาจเป็นอัศวินขี่ม้าขาวต่อชะตา TikTok?

18.01.2025
  • LOADING...
trump-tiktok-hero

มหากาพย์ความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลสหรัฐอเมริกาและแอปพลิเคชันฮิตแห่งยุคอย่าง TikTok ดำเนินมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ หลังศาลสูงพิพากษายืนให้เดินหน้าแบนแอปในสหรัฐฯ ได้ หาก ByteDance บริษัทแม่ไม่ยอมขายกิจการให้บริษัทสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลให้ TikTok เตรียมต้องระงับให้บริการในสหรัฐฯ ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (19 มกราคม)

 

คำตัดสินของศาลสูงทำให้ TikTok ไม่อาจเดินหน้าต่อสู้ด้วยวิธีทางกฎหมายได้อีก ส่งผลให้ความหวังอันเลือนรางที่จะต่อชะตาให้ตนเองมีชีวิตรอดตอนนี้กลายเป็นการหาทางออกด้วย ‘การเมือง’

 

  • ทรัมป์ อัศวินขี่ม้าขาวต่อชะตา TikTok?

 

ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ อย่าง โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีกำหนดจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำประเทศในวันจันทร์ที่ 20 มกราคม หรือ 1 วันหลัง TikTok ต้องยุติการให้บริการ เคยลั่นวาจาไว้ว่าเขาต้องการช่วยเหลือ TikTok แต่คำถามสำคัญก็คือทรัมป์จะเป็นอัศวินขี่ม้าขาวที่มาเซฟแอปที่มียอดผู้ใช้งานในสหรัฐฯ กว่า 170 คนได้จริงหรือไม่

 

ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายของสหรัฐฯ กันก่อน กฎหมายที่สำคัญที่สุดในเรื่องนี้ก็คือกฎหมายคุ้มครองชาวอเมริกันจากแอปพลิเคชันที่ควบคุมโดยศัตรูต่างชาติ (PAFACA) ซึ่งร่างกฎหมายนี้มีจุดมุ่งหมายในการป้องกันไม่ให้บริษัทต่างชาติใช้แอปพลิเคชันที่กระทบต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ

 

ทุกคนที่ติดตามเรื่องนี้ล้วนทราบดีว่าสหรัฐฯ มองว่า TikTok อาจเอื้อประโยชน์ให้รัฐบาลจีนเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้งานชาวอเมริกันได้ ฉะนั้นแล้วหากตีความตามกฎหมายดังกล่าว การ ‘แจกจ่าย รักษา หรืออัปเดต’ TikTok จึงเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ดังนั้นจึงมีการคาดการณ์ว่าผู้ให้บริการดาวน์โหลดแอปอย่าง Apple และ Google จะลบ TikTok ออกจากแอปสโตร์และหยุดเสนอการอัปเดตต่างๆ ด้วย ขณะบริษัทสัญชาติอเมริกันที่โฮสต์ข้อมูลของ TikTok หรือให้บริการโฆษณาก็อาจจะยุติการดำเนินการเช่นกัน

 

แม้จุดจบในสหรัฐฯ จะกล้ำกรายเข้ามาเยือนทุกขณะ แต่ TikTok ยังออกแรงดิ้นจนเฮือกสุดท้าย โดยวานนี้ (17 มกราคม) บริษัทออกแถลงการณ์ว่า TikTok อาจจำต้องระงับการให้บริการในวันพรุ่งนี้ ซึ่งในทางหนึ่งก็เพื่อสร้างแรงกดดันให้ชาวอเมริกันมาร่วมกันคัดค้านให้ได้มากที่สุด และหนึ่งในตัวละครสำคัญที่ TikTok เลือกเดินหน้าเข้าหาก็คือพันธมิตร (แบบที่ใครๆ ก็คาดไม่ถึง) อย่างทรัมป์

 

หากยังคงจำกันได้ เมื่อปี 2020 ทรัมป์เคยพยายามที่จะลงดาบแบน TikTok ในช่วงที่เขาเป็นประธานาธิบดีสมัยแรก แต่กลับกลายเป็นว่าในปี 2024 ทรัมป์ดูเหมือนจะกลายเป็นแฟนตัวยงของ TikTok ไปเสียแล้ว โดยแคมเปญหาเสียงของทรัมป์โด่งดังเป็นไวรัลใน TikTok แอ็กเคานต์ของทรัมป์มีผู้ติดตามกว่า 15 ล้านคน มียอดชมคลิปนับพันล้านครั้ง และเขาก็ยอมรับว่า TikTok มีส่วนช่วยให้ตนเองคว้าคะแนนจากคนรุ่นใหม่จนได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งเมื่อปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันก็มีรายงานออกมาด้วยว่าเขาได้เชิญ โจวโซ่วจือ มาร่วมพิธีสาบานตนที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ด้วย โดยทรัมป์เคยกล่าวว่า TikTok ก็มีข้อดีในฐานะที่เป็นคู่แข่งรายสำคัญของ Facebook ที่ก่อนหน้านี้แทบจะผูกขาดโลกโซเชียลอยู่เจ้าเดียว

 

จริงๆ แล้วไม่ใช่แค่ทรัมป์ที่เปลี่ยนใจ แต่อเมริกันชนก็เปลี่ยนใจมารัก TikTok ด้วยเช่นกัน เพราะสถิติจาก Pew Research Centre ชี้ว่า ในช่วงต้นปี 2023 ชาวอเมริกันวัยผู้ใหญ่กว่าครึ่งต้องการให้รัฐบาลแบน TikTok ให้รู้แล้วรู้รอดกันไป แต่เมื่อมาดูผลสำรวจในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ตัวเลขผู้ที่อยากแบน TikTok ร่วงลงเหลือเพียงแค่ 1 ใน 3 เท่านั้น

 

  • TikTok จะรอดตายได้อย่างไร

 

อย่างไรก็ตาม ว่าที่ประธานาธิบดีอาจมีทางเลือกในการต่อชะตาชีวิต TikTok ได้ไม่มากนัก โดยพันธมิตรของทรัมป์แนะนำว่าเขาควรออกคำสั่งพักการแบนโดยใช้เงื่อนไขใน PAFACA ที่อนุญาตให้ประธานาธิบดีมีสิทธิ์เลื่อนการแบน TikTok ออกไปได้ 90 วัน แต่ถึงเช่นนั้นก็จะต้องมีหลักฐานที่แสดงถึงความคืบหน้าอย่างชัดเจนเกี่ยวกับการขายแอปให้กับผู้ซื้อชาวอเมริกัน (ซึ่งตอนนี้ยังดูไม่มีทีท่าว่าจะเกิดขึ้น) หรืออีกทางเลือกหนึ่ง ทรัมป์อาจสั่งอัยการสูงสุดไม่ให้บังคับใช้กฎหมาย ซึ่งกรณีนี้ก็เคยมีอดีตประธานาธิบดีคนอื่นๆ ทำมาก่อนแล้ว เช่นกรณีการแบนการใช้งานกัญชาของรัฐบาลกลาง

 

แต่ดูเหมือนว่าผู้ที่น่าจะนั่งกุมขมับพอๆ กับ TikTok คือบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ที่นาทีนี้ก็ไม่มั่นใจว่าควรทำอย่างไร โดย เอเวลิน ดูเอ็ก จากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด กล่าวว่า “ทรัมป์เปลี่ยนใจบ่อยมาก ถ้าฉันเป็นทนายความที่ Apple หรือ Google ฉันคงไม่กล้าพูดหรอกว่า ‘ไม่เป็นไร เราสามารถฝ่าฝืนกฎหมายได้ ทรัมป์ให้คำมั่นกับเราแล้วว่าจะไม่ดำเนินคดีกับเรา’ อะไรทำนองนั้น”

 

บทวิเคราะห์จาก The Economist ระบุว่า ทางรอดที่แน่นอนที่สุดคือบริษัทแม่อย่าง ByteDance ต้องยอมขายกิจการ โดยบริษัทพูดย้ำมาตลอดว่า ‘TikTok ไม่ได้มีไว้ขาย’ และถึงแม้ ByteDance จะยอมตัดใจขายในวินาทีสุดท้ายจริง แต่การเข้าซื้อกิจการของ TikTok ถูกคัดค้านจากรัฐบาลจีน โดยก่อนหน้านี้จีนกล่าวถึงความพยายามของสหรัฐฯ ที่จะซื้อแอปดังกล่าวว่าเป็นการ ‘ปล้นสะดม’ และจัดประเภทอัลกอริทึมการแนะนำของ TikTok ว่าเป็นเทคโนโลยีละเอียดอ่อนที่ไม่สามารถส่งออกได้

 

แต่ทรัมป์เป็นชายที่มาพร้อมกับอะไรเหนือความคาดหมายของชาวโลกอยู่ตลอดเวลา ฉะนั้นแล้วการกลับมาเยือนทำเนียบขาวของเขาอาจทำให้ข้อตกลงบางอย่างที่ดูไม่น่าเป็นไปได้กลับเป็นไปได้ ทรัมป์กล่าวว่าเขาต่อสายตรงหาประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีน เพื่อพูดคุยในประเด็น TikTok เมื่อวันที่ 17 มกราคม และเมื่อจีนอยากเลี่ยงก่อสงครามการค้ากับสหรัฐฯ TikTok ก็อาจเป็นไพ่ใบสำคัญที่จีนอาจใช้เป็นตัวต่อรองเรื่องภาษีศุลกากร

 

Bloomberg รายงานว่ารัฐบาลจีนกำลังเล็งให้ อีลอน มัสก์ เป็นผู้ซื้อ TikTok ที่มีศักยภาพ ขณะ Financial Times รายงานว่าจีนต้องการให้มัสก์เป็นตัวกลางในการทำข้อตกลงกับบริษัทอื่นๆ

 

ทั้งนี้ มัสก์เองก็เป็นพันธมิตรของทรัมป์ และการลงทุนครั้งใหญ่ของเขาในจีนผ่านธุรกิจรถยนต์ Tesla อาจโน้มน้าวเจ้าหน้าที่จีนให้เชื่อว่าเขาเป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้ หรือบางทีอาจเป็นคนที่จีนมีอำนาจต่อรองได้

 

คำถามต่อมาคือหากไม่ใช่มัสก์แล้ว ในสหรัฐฯ มีใครที่น่าจะเป็นผู้ซื้ออีกได้บ้าง กลุ่ม People’s Bid ซึ่งนำโดย แฟรงก์ แมคคอร์ท เศรษฐีอดีตเจ้าของทีมเบสบอล LA Dodgers ก็เคยแสดงตัวว่าสนใจที่จะซื้อ TikTok หรือหากมองย้อนดูในช่วงที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งวาระแรก และพยายามจะสั่งให้มีการขาย TikTok ผู้ซื้อเคยแสดงความสนใจก็จะมีบริษัททุนหนาอย่าง Oracle, Microsoft และ Walmart

 

  • ใครจะได้ประโยชน์หาก TikTok หายไป

 

หากกลยุทธ์เหล่านี้ไม่ประสบผลสำเร็จและ TikTok ต้องโบกมือลาสหรัฐฯ ไปตลอดกาล ใครจะได้ประโยชน์?

 

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่าผู้ที่ได้รับประโยชน์หลักคือ Meta ซึ่งให้บริการ Facebook และ Instagram ตามมาด้วย YouTube จากบ้าน Google เป็นอันดับสอง รวมถึง Snapchat ที่อาจได้ประโยชน์ด้วย

 

แต่ต้องไม่ลืมว่าฝั่งจีนเองก็อาจโต้ตอบอย่างรุนแรงด้วยเช่นกัน เพราะแอปโซเชียลมีเดียของสหรัฐฯ อย่างเช่น Facebook และ YouTube ก็ถูกแบนไปแล้วที่นั่น แต่บริษัทสัญชาติอเมริกันอื่นๆ ก็อาจตกเป็นเหยื่อในเกมนี้ด้วย ปัจจุบัน Apple รีบย้ายฐานการผลิตไปที่อินเดีย แต่ขณะเดียวกันก็ยังคงผลิตอุปกรณ์ส่วนใหญ่ในจีน ส่วน Tesla ก็มีโรงงานขนาดยักษ์ในเซี่ยงไฮ้ด้วย

 

ภาพ: Cheney Orr / Reuters

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising