โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดทำเนียบขาว ต้อนรับบรรดาซีอีโอบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของสหรัฐฯ ทั้ง Apple, Google และ Microsoft เพื่อเน้นย้ำความสำเร็จของภาคเทคโนโลยี พร้อมยืนยันรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุน ทั้งการอำนวยความสะดวกด้านพลังงาน ใบอนุญาต และการสนับสนุนอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ขณะที่บริษัทเทคฯ เตรียมทุ่มลงทุนรวมหลายแสนล้านดอลลาร์ในโครงสร้างพื้นฐานและศูนย์ข้อมูล ซึ่งคาดว่าจะสร้างงานจำนวนมหาศาล และตอกย้ำความเป็นผู้นำโลกด้าน AI ของสหรัฐฯ
เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้จัดการประชุมกับผู้นำอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยมี มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ซีอีโอของ Meta, บิล เกตส์ (Bill Gates) ผู้ก่อตั้ง Microsoft, ทิม คุก (Tim Cook) ซีอีโอของ Apple, สัตยา นาเดลลา (Satya Nadella) ซีอีโอของ Microsoft, แซม อัลต์แมน (Sam Altman) ซีอีโอของ OpenAI และเซอร์เกย์ บริน (Sergey Brin) ผู้ก่อตั้ง Google เข้าร่วมงานเลี้ยงที่ทำเนียบขาว และพูดคุยเพื่อเสริมบทบาทความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและ AI ของสหรัฐอเมริกา
ซึ่งประธานาธิบดีได้กล่าวชื่นชมถึงความอัจฉริยะและความสำเร็จของบริษัทเหล่านี้ พร้อมย้ำว่านี่คือ ‘ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ’ สำหรับสหรัฐฯ และโลก ในการก้าวเข้าสู่ยุคของปัญญาประดิษฐ์ (AI)
การลงทุนมหาศาลของบริษัทยักษ์ใหญ่
ระหว่างบทสนทนาบนโต๊ะอาหารที่ถูกจัดขึ้นในทำเนียบขาว บริษัทเทคฯ ชั้นนำ ได้กล่าวถึงแผนการลงทุนด้านเทคโนโลยีในสหรัฐฯ ดังนี้
- Apple ประกาศแผนลงทุน 6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในประเทศ
- Google จะลงทุน 2.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 2 ปีข้างหน้า
- Microsoft ลงทุนเฉลี่ยปีละ 7.5-8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในสหรัฐฯ
นอกจากนี้ ยังมีบริษัท AI เกิดใหม่ที่จะลงทุนเพิ่มเติม อีกหลายแสนล้านดอลลาร์
ภาพรวมทั้งหมด คาดว่าจะผลักดันเม็ดเงินลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน AI ในสหรัฐฯ สูงถึง อย่างน้อย 6 แสนล้านดอลลาร์ ภายในปี 2028
การลงทุนเหล่านี้ส่วนใหญ่จะมุ่งไปที่ ศูนย์ข้อมูล (Data Center) และโครงสร้างพื้นฐาน AI ซึ่งถูกมองว่าเป็น ‘วังแห่งอัจฉริยะ’ (the palaces of genius) ของยุคใหม่ และถือเป็นการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ อาจมีมูลค่ามากกว่าโครงการอะพอลโลถึง 10 เท่า
ผลักดันเศรษฐกิจและการจ้างงาน
ทรัมป์ระบุว่าโครงการดังกล่าวไม่เพียงแต่จะทำให้สหรัฐฯ ครองความเป็นผู้นำด้าน AI แต่ยังสร้างงานมหาศาลในภาคการก่อสร้าง วิศวกรรม และแรงงานฝีมือ โดยคาดว่าจะเป็นการจ้างงานครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ
ขณะเดียวกัน ซีอีโอได้กล่าวชื่นชมรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เปลี่ยนบทบาทจาก ‘ผู้คุมกฎ’ มาเป็น ‘ผู้สนับสนุน’ ผ่านการอำนวยความสะดวกเรื่องการขอใบอนุญาต การจัดหาพลังงาน และการลดอุปสรรคทางธุรกิจ โดยยังมีการผลักดัน อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็น ‘สมอง’ ของ AI ทั้งหมด ผ่านมาตรการจูงใจและพิจารณาเก็บ ภาษีนำเข้า จากบริษัทต่างชาติที่ไม่ยอมสร้างโรงงานในประเทศ
ส่องวิสัยทัศน์ผู้นำโลกด้าน AI
ผู้นำเทคโนโลยีและทรัมป์ ต่างเห็นพ้องว่าสหรัฐฯ มีศักยภาพที่จะเป็นผู้นำโลกในด้าน AI ด้วยบุคลากรที่เก่งที่สุดและเทคโนโลยีที่คู่แข่งไม่สามารถเลียนแบบได้ พร้อมกันนี้ยังได้หยิบยกประเด็นการใช้ AI เพื่อแก้ปัญหาสังคมและสุขภาพ ตั้งแต่การรักษาโรคโปลิโอ, HIV ไปจนถึงโรคโลหิตจางเม็ดเลือดแดงรูปเคียว รวมถึงการขยายบริการทางการแพทย์สู่แอฟริกา และการพัฒนาโอกาสการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชน
การประชุมครั้งนี้ตอกย้ำว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของโดนัลด์ ทรัมป์ มุ่งมั่นที่จะผลักดันอุตสาหกรรม AI ให้เป็นเครื่องยนต์เศรษฐกิจและยุทธศาสตร์ชาติ โดยอาศัยการลงทุนระดับใหญ่เป็นประวัติการณ์ของบริษัทยักษ์ใหญ่ และการสนับสนุนจากภาครัฐ เพื่อเสริมสร้างความเป็นผู้นำโลกด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมในระยะยาว
อ้างอิง:
- PBS NewsHour: https://www.youtube.com/watch?v=WYyaNm7UqFQ