โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ตัดสินใจระงับมาตรการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าต่อเม็กซิโกและแคนาดาในอัตราใหม่ที่ 25% ซึ่งเดิมทีเตรียมเริ่มต้นบังคับใช้ตั้งแต่เที่ยงคืนของวันนี้ (4 กุมภาพันธ์) โดยเลื่อนออกไปอีก 30 วัน ภายหลังการโทรศัพท์สายตรงพูดคุยกับ จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา และ คลอเดีย ไชน์บัม ประธานาธิบดีเม็กซิโก โดยทั้งสองผู้นำตอบรับข้อเรียกร้องของทรัมป์ในการปรับปรุงมาตรการควบคุมความมั่นคงชายแดน เพื่อป้องกันปัญหาผู้อพยพและการลักลอบขนยาเสพติดเฟนทานิลเข้าสู่สหรัฐฯ
ทั้งนี้ มาตรการเก็บภาษีของทรัมป์จะยังคงมีผลต่อจีน โดยจะเริ่มบังคับใช้อัตราภาษี 10% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีนตั้งแต่วันนี้ ซึ่งทรัมป์เตือนว่าการเก็บภาษีสำหรับจีนอาจเพิ่มขึ้นอีกหากไม่มีการยับยั้งปัญหายาเฟนทานิล ซึ่งจีนถูกจับตามองว่าเป็นแหล่งผลิตรายใหญ่
“หวังว่าจีนจะหยุดส่งเฟนทานิลให้เรา และหากไม่ทำเช่นนั้นภาษีศุลกากรจะสูงขึ้นอย่างมาก”
ภายหลังการหารือ ทรูโดโพสต์ข้อความทาง X ว่า การระงับมาตรการเก็บภาษีจะเกิดขึ้นในขณะที่สหรัฐฯ และแคนาดาทำงานร่วมกัน
โดยแคนาดาจะดำเนินการตามแผนงานด้านชายแดน ด้วยการใช้งบประมาณกว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มเฮลิคอปเตอร์ เทคโนโลยี และเจ้าหน้าที่ชายแดน ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่เกือบ 10,000 นายทำงานปกป้องชายแดน
ขณะเดียวกันจะแต่งตั้ง Fentanyl Czar หรือเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลการกวาดล้างยาเฟนทานิล พร้อมทั้งขึ้นบัญชีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดเม็กซิโกเป็นกลุ่มก่อการร้าย และจัดตั้งกองกำลังโจมตีร่วมระหว่างแคนาดาและสหรัฐฯ เพื่อต่อสู้กับกลุ่มอาชญากร ยาเฟนทานิล และการฟอกเงิน
ด้านทรัมป์โพสต์ข้อความว่าเขา “ยินดีอย่างยิ่งกับผลลัพธ์เบื้องต้นนี้ และภาษีศุลกากรที่ประกาศไว้เมื่อวันเสาร์จะถูกระงับเป็นเวลา 30 วัน เพื่อดูว่าจะสามารถจัดทำข้อตกลงทางเศรษฐกิจขั้นสุดท้ายกับแคนาดาได้หรือไม่” พร้อมทั้งยืนยันว่านี่เป็น “ความยุติธรรมสำหรับทุกคน!”
ก่อนหน้านี้ไชน์บัมเผยว่า “เม็กซิโกจะเสริมกำลังทหารจากกองกำลังป้องกันชาติ 10,000 นายในพื้นที่ชายแดนตอนเหนือทันที เพื่อจัดการกับการลักลอบขนยาเสพติดจากเม็กซิโกไปยังสหรัฐ โดยเฉพาะเฟนทานิล
โดยทรัมป์ระบุว่า สหรัฐฯ จะเดินหน้าเจรจากับเม็กซิโกเรื่องความมั่นคงชายแดนต่อไป โดยมี มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ โฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้นำการเจรจา
อ้างอิง: