เมื่อวานนี้ (5 ก.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ประกาศว่า รัฐบาลพิจารณาเตรียมออกคำสั่งเพื่อลดราคายาในประเทศ ให้ราคาลดลงเหลือเท่ากับประเทศที่ค่ายาถูกในภูมิภาคอื่นของโลก โดยอ้างอิงคำพูดขณะให้สัมภาษณ์สื่อที่ทำเนียบขาวว่า “เรากำลังเตรียมร่างกฎหมายเพื่อให้คนอเมริกันจ่ายค่ายาพอๆ กับประเทศที่ราคาถูกที่สุด ราคายาในประเทศอื่นถูกกว่าบ้านเราถึง 60-70% เป็นอย่างนี้มานานแล้ว”
ทรัมป์ยังเหน็บบริษัทยาขนาดใหญ่ว่า เป็นผู้ฉวยผลประโยชน์จากระบบนี้มาเป็นเวลานาน มีส่วนสำคัญที่ทำให้ราคายาในสหรัฐฯ แพงเกินกว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่างแคนาดา เม็กซิโก และกลุ่มประเทศยุโรป โดยคาดว่าคำสั่งดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้เป็นต้นไป และกำหนดให้บริษัทผู้ผลิตยาต้องเปิดเผยราคายาผ่านสื่อโทรทัศน์ด้วย
โดยปกติแล้วชาวอเมริกันชนจะทำประกันสุขภาพเอาไว้เพื่อรองรับกับความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นและค่ารักษาพยาบาลอยู่ในระดับที่สูง ส่วนที่สำคัญคือการเบิกจ่ายค่ายาเต็มจำนวนจากความคุ้มครองของกรมธรรม์ที่ทำ มีผลต่อวงเงินที่ใช้ได้และเบี้ยประกันสุขภาพในปีถัดไป หากราคายาปรับถูกลงก็จะเป็นผลดีต่อเรื่องดังกล่าว กระนั้นบริษัทยาขนาดใหญ่ก็ยังเดินหน้าขึ้นราคายา อย่างล่าสุดไฟเซอร์ประกาศขึ้นราคายา 41 รายการเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ในอีกมุมหนึ่ง บริษัทยาก็ใช้งบประมาณมหาศาลในการพัฒนายาแต่ละตัว ซึ่งมีกำหนดเรื่องสิทธิบัตรคุ้มครองในระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น ก่อนที่ผู้อื่นจะสามารถผลิตยาตัวที่คิดค้นนี้ได้ในราคาที่ถูกกว่าอย่างถูกกฎหมายเช่นเดียวกัน
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
